นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะรองโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ. ได้มีมติรับรองและประกาศผลรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้า และมีสิทธิเข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย โครงการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับหน่วยราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร เฟสสอง แล้ว โดยมีผู้ที่ผ่านการพิจารณาทั้งสิ้นจำนวน 35 ราย คิดเป็นปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวม 154.52 เมกะวัตต์ (MW) แบ่งเป็น หน่วยงานราชการ 11 ราย ปริมาณเสนอขาย 52.52 เมกะวัตต์ และสหกรณ์ภาคการเกษตร 24 ราย ปริมาณเสนอขาย 102 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนหมุนเวียนกว่า 10,700 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ สำนักงาน กกพ. ได้ดำเนินการจับสลากเพื่อคัดเลือกผู้ที่ประสงค์จะเป็นเจ้าของโครงการที่ผ่านการตรวจคุณสมบัติไป พร้อมกับได้ประกาศผลจับสลากอย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งมีผู้ที่จับสลากและได้รับคัดเลือกในการยื่นคำข้อเสนอขอขายไฟฟ้าในขั้นตอนที่สอง รวมจำนวน 38 ราย หรือคิดเป็นปริมาณการเสนอขายไฟฟ้ารวมทุกพื้นที่ 171.52 เมกะวัตต์
"สำหรับขั้นตอนต่อไป เจ้าของโครงการหรือผู้สนับสนุนโครงการ จะเข้าสู่กระบวนการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (กฟภ. หรือ กฟน.) ภายใน 120 วันนับจากวันที่ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณา หรือภายในวันที่ 2 มีนาคม 2561 กับภายใต้อายุสัญญา 25 ปี และได้รับอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่ 4.12 บาทต่อหน่วย โดยต้องพร้อมจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ตามสัญญา (SCOD) ให้ทันภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2561 ทั้งนี้ หากไม่เข้าทำสัญญาภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ถือว่าคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าเป็นอันยกเลิก"นางสาวนฤภัทร กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนจำนวนเมกะวัตต์ที่เหลือจากเป้าหมายตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 ได้เห็นชอบยุติการรับซื้อไฟฟ้าตามโครงการโซลาร์ฟาร์มในเฟสสองเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว