นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการของบริษัทร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (International Rubber Consortium :IRCo) ประกอบด้วยตัวแทนจากทั้ง 3 ประเทศสมาชิก ได้แก่ ไทย มาเลเซียและอินโดนีเซีย ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นสถานการณ์ยางพารา การคาดการณ์อุปสงค์และอุปทานของยางที่จะเกิดขึ้น
รวมถึงประเด็นราคายางในปัจจุบันที่ไม่เป็นไปตามกลไกการตลาด และได้นำเอาปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมพิจารณา เช่น ปัจจัยสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นกับประเทศผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลกทั้ง 3 ประเทศจะส่งผลต่อปริมาณยางในตลาดโลกที่มีแนวโน้มจะลดลง ผลของปรากฏการณ์ลานินญ่าที่จะทำให้เกิดฝนตกหนักมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตของยางในแต่ละประเทศ คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน พ.ย.60-ม.ค.61 รวมถึงการมาถึงของฤดูหนาวที่เกิดขึ้นในระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค.60 คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อปริมาณยางในตลาดซื้อขายโลกลดลง เช่นกัน
ที่ประชุมได้มีการกล่าวถึงปัจจัยที่ส่งผลให้ราคายางคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น เช่น การเติบโตของเศรษฐกิจโลก คิดเป็น 3.6% เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์ในตลาดหลัก เช่น จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.8%, 3.7% และ 7.1% ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อความต้องการใช้ยางธรรมชาติเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยางล้อ รวมถึงปัจจัยด้านราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้น และการที่ทั้ง 3 ประเทศมีเป้าหมายจะเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศมากขึ้น โดยการนำยางไปสร้างถนนและทางยกระดับต่างๆ และอื่นๆ
“ที่ประชุมยังมีความเห็นร่วมกันว่าทั้งสามประเทศจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมจะดำเนินมาตรการเข้มข้นมากขึ้นร่วมกัน เพื่อช่วยผลักดันให้ราคายางกลับเข้าสู่ภาวะที่ควรจะเป็น อีกทั้งที่ประชุมเน้นว่า พร้อมจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้เกษตรกรรายย่อยทั้ง 3 ประเทศ มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น"นายธีธัช กล่าว