พาณิชย์มั่นใจมาตรการตลาดเชิงรุกช่วยเกษตรกรได้ราคาผลผลิตเหมาะสม เร่งหาตลาดรองรับทั้งใน-ตปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 3, 2017 18:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ได้ให้ความสำคัญและดำเนินนโยบายเชิงรุก เพื่อดูแลราคาสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่อง เน้นการบริหารจัดการอุปสงค์และอุปทานด้วยการใช้ตลาดนำการผลิต รวมทั้งแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งได้จัดทำแผนงานดูแลสินค้าเกษตรสำคัญ โดยมีการเตรียมความพร้อมรับมือผลผลิตทางการเกษตรที่จะออกสู่ตลาดทั้งข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และยางพารา โดยในแต่ละแหล่งผลิตจะมีพาณิชย์จังหวัดเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายและมาตรการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สำหรับข้าวซึ่งกำลังจะออกสู่ตลาดในเดือนพฤศจิกายนนี้ มีผลผลิตในปี 2560/61 ประมาณ 28.81 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อน 9.88% ราคาข้าวเปลือกเฉลี่ย ณ วันที่ 2 พ.ย.2560 ข้าวหอมมะลิอยู่ที่ 12,900 บาท ข้าวเหนียว 10% เมล็ดยาว 9,150 บาท ข้าวเจ้า 5% 7,550 บาท ข้าวปทุมธานี 8,900 บาท โดยข้าวหอมมะลิและข้าวปทุมธานี มีราคาปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนราคาข้าวชนิดอื่นที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย อาทิ ข้าวเหนียว เนื่องจากยังมีสต็อกข้าวของปีก่อนอยู่มาก สำหรับข้าวเจ้า เนื่องจากบางพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม

กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กำหนดแนวทางและมาตรการด้านการตลาดช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2560/61 เพื่อดูดซับผลผลิตส่วนเกินในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากซึ่งจะช่วยให้ระดับราคาข้าวเปลือกให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม อาทิ

  • จัดทำแอพพลิเคชั่น (Application) จองรถเกี่ยวร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สารสนเทศ (องค์กรมหาชน) หรือ GISTDA เพื่อจัดหารถเกี่ยวให้เกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมามาก ช่วยให้ชาวนาเกี่ยวข้าวได้ครบอายุตามพันธุ์ ได้ข้าวคุณภาพดีขายได้ราคาดี
  • ให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ให้เก็บข้าวเปลือกเข้ายุ้งฉางรอราคาดีแล้วค่อยขายเพื่อไม่ให้ราคาลดลงในช่วงผลผลิตออกมากและค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน
  • ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ให้เกษตรกรไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ หรือ ไม่เกิน 12,000 บาท/ครัวเรือน

-ให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมหรือแปรรูปข้าวเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในอัตราดอกเบี้ยเพียง 1%

  • ชดเชยดอกเบี้ย 3% ให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก

นอกจากนั้น ยังกำหนดจัดตลาดนัดข้าวเปลือกให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขาย ในช่วง 1 ต.ค. 60 – 30 ก.ย. 61 โดยดูแลเกษตรกรให้ความเป็นธรรมด้านราคาและการหักลดน้ำหนักจากการวัดความชื้น

สำหรับการส่งเสริมข้าวอินทรีย์ กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการเชื่อมโยงการตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP สนับสนุนค่าตรวจรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จัดสรรโควตาส่งออกข้าวไปสหภาพยุโรป (EU) และให้ความช่วยเหลือด้านการเงินให้เกษตรกร

โฆษกกระทรวงพาณิชย์ ย้ำว่า มาตรการช่วยเหลือด้านการตลาดเชิงรุกที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ส่งผลให้ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ได้ดำเนินมาตรการส่งเสริมการตลาดควบคู่ไปด้วย โดยในระหว่างวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เชิญผู้ซื้อข้าวจากทั่วโลกจาก 25 ประเทศ มาเจรจาซื้อขายข้าว ส่งผลให้มีการขยายลู่ทางการส่งออกสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวของไทยสู่ตลาดโลกให้ได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผลการเจรจาดังกล่าวก่อให้เกิดมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 83,290,975 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2,748,602,175 บาท และคาดการณ์ภายใน 1 ปี จะมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 30,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ