นายพรชัย รุจิประภา ประธานกรรมการคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน เปิดเผยว่า จากการประชุมของคณะกรรมการปฎิรูปฯ 11 ครั้งที่ผ่านมา ได้วางแนวทางการปฎิรูปไว้ 3 เรื่องที่สำคัญ ได้แก่ "เร่ง"การเร่งเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีความรับผิดชอบอย่างประหยัดและปลอดภัย ปรับสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงที่คำนึงถึงแนวโน้มการใช้พลังงานโลกที่ก๊าซธรรมชาติเหลวจะมีความสำคัญมากขึ้น โดยต้องพิจารณากระจายการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลวจากหลายๆแหล่งเพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนเพื่อส่งเสริมการแข่งขั้นและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
"ซ่อม" ปรับปรุงการสื่อสารข้อมูลกับสาธารณะให้ครบทุกมิติ พัฒนาศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ และ "สร้าง" ด้วยการวางรากฐานการบริหารจัดการและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม เตรียมความพร้อมของกลไกและปัจจัยแวดล้อมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่เป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ ให้ความสำคัญกับการสร้างมูค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากจุดแข็งประเทศไทย
"คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาถึงนโยบายและแผน รวมถึงประเด็นข้อเสนอการปฎิรูปของร่างยุทธศาสตร์ชาติ สภาปฎิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ และคณะอนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง โดยศึกษาและทบทวนประเด็นการปฎิรูปพลังงานที่สำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและทิศทางของอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไป" นายพรชัย ระบุ
เนื่องจากปัจจุบันการผลิตพลังงานเชิงพาณิชย์เพื่อการบริโภคภายในประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการและมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางพลังงานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากการบริหารจัดการพลังงานจากการใช้พลังงานที่ขาดประสิทธิภาพ โครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ดรงไฟ้า ระบบสายส่ง ระบบจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆยังไม่ได้รับการปรับปรุงหรือลงทุนอย่างเพียงพอเพื่อรองรับเทคโนโลยีหรือการใช้พลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป
นายพรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ โดยมี พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช เป็นประธานในการรับฟังความคิดเห็นเพื่อช่วยดำเนินการตามมาตรา 18 (3) ซึ่งได้กำหนดจัดสัมมนา จำนวน 4 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 28 พ.ย.ที่จังหวัดกรุงเทพ, วันที่ 8 ธ.ค. จังหวัดนครราชสีมา, วันที่ 13 ธ.ค. จังหวัดนครสวรรค์ และวันที่ 23 ธ.ค.จังหวัดระยอง