นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.15 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.09 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าสอดคล้องกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค โดยรวมแล้ววันนี้ยังไม่มีปัจจัยเด่นๆ ที่มีผลต่อการ เคลื่อนไหวของเงินบาทมากนัก ในขณะที่วันพรุ่งนี้คาดว่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิม คือไม่หลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 33.05 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าสุดของปีนี้
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.05 - 33.18 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.29 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.85/86 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1560 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1604 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,712.75 จุด เพิ่มขึ้น 1.01 จุด (+0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 56,758 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 244.18 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการ "ช็อปช่วยชาติ" ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเป็นการ
ทั้งนี้ การซื้อสินค้าตามมาตราการดังกล่าวต้องเป็นการซื้อสินค้าพื่อใช้ภายในประเทศหรือบริการเพื่อใช้ภายในประเทศ เท่านั้น และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แต่สินค้านั้นไม่รวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ น้ำมัน ก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ และการบริการนั้น ไม่รวมถึงการจ่ายค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ซึ่งจะต้องมีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีเต็มแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า มาตรการช็อปช่วยชาติรอบใหม่จะช่วยกระจายรายได้ไปให้ผู้ประกอบธุรกิจการค้า และ
- กระทรวงการคลัง รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 มีจำนวน 6,369,331.31 ล้าน
- ญี่ปุ่นได้ตัดสินใจขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ โดยนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้อนุมัติการอายัด
- กระทรวงความมั่นคงสาธารณะแห่งจีน เตรียมยกระดับมาตรการปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน เพื่อปกป้องผล
ประโยชน์ของชาติและกำจัดความเสี่ยงทางการเงิน โดยจะมุ่งเน้นอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการระดมทุนอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย แวด
วงการเงินออนไลน์ หลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า และสถาบันการเงิน ทั้งนี้ มาตรการปราบปรามดังกล่าวมีขึ้นเนื่องจากทางการ
จีนต้องการกวดขันระเบียบกำกับดูแลและควบคุมการดำเนินการที่เข้าข่ายเสี่ยงและไม่ชอบด้วยกฎหมายในแวดวงการเงิน โดยเมื่อปีที่
ผ่านมา ทางการจีนได้จับกุมธนาคารใต้ดินกว่า 380 ราย คิดเป็นวงเงินกว่า 9 แสนล้านหยวน และจับกุมผู้ต้องสงสัยอีกหลายร้อยราย