สนพ.เดินหน้าคัดเลือก Charging Station นำร่องรอบ 4 คาดได้ตามเป้า 150 หัวจ่าย ในปี 61

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 8, 2017 13:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานมีมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้พลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ 1.2 ล้านคันในปี 2579 และส่งเสริมการจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) เพื่อเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและเป็นสถานีนำร่องสำหรับรองรับยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต จำนวน 150 หัวจ่าย ภายในปี 2561 และเพิ่มเป็น 690 หัวจ่ายภายในปี 2579

ทั้งนี้ สนพ. ได้มอบหมายให้สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ดำเนินโครงการสนับสนุนการลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า สำหรับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้มีการเปิดรับสมัครผู้สนใจจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่เป็นหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 -กันยายน 2560 รวม 4 รอบ โดยรอบที่ 4 ซึ่งเปิดรับสมัครเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนมาก สมาคมฯ ได้ทำการคัดเลือกหน่วยงานที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้และมีความพร้อมรวม 24 หัวจ่าย โดยแบ่งเป็นสถานีอัดประจุไฟฟ้าหัวจ่ายแบบธรรมดา (Normal Charge) จำนวน 20 หัวจ่าย และสถานีอัดประจุไฟฟ้าหัวจ่ายเร่งด่วน (Quick Charge) จำนวน 4 หัวจ่าย ซึ่งทางสมาคมฯ จะมีการทำสัญญากับหน่วยงานที่ผ่านการคัดเลือกในขั้นตอนต่อไป

“กระทรวงพลังงาน ตั้งเป้าสถานีอัดประจุไฟฟ้านำร่องในโครงการฯ 150 หัวจ่ายในปี 2561 คาดว่าจะได้จำนวนหัวจ่ายตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งจากการเปิดรับสมัครหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 เป็นต้นมา มีหน่วยงานที่ผ่านการคัดเลือก จากการเปิดรับรอบที่ 1-4 รวม 101 หัวจ่าย โดยปัจจุบัน มีสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว 12 หัวจ่ายอาทิ กรมควบคุมมลพิษ สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขาราชพฤกษ์ 2 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โครงการคริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เป็นต้น โดยผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายชื่อและสถานที่ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่เว็บไซต์ สมาคมยานยนต์ไทย www.evat.or.th" นายทวารัฐ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ