นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการจัดประกวดข้าวดีเด่นโลก (The World’s Best Rice 2017) ครั้งที่ 9 ที่มาเก๊า จัดโดยองค์กร The Rice Trader ปรากฏว่าข้าวหอมมะลิไทยสามารถคว้าแชมป์ข้าวที่รสชาติดีที่สุดในโลกมาครองอีกหนึ่งสมัย โดยข้าวหอมของประเทศกัมพูชา ได้อันดับที่ 2 และข้าว ST24 ของประเทศเวียดนาม ได้อันดับที่ 3 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้าวหอมมะลิไทยเป็นข้าวหอมที่ดีที่สุดในโลก มีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และยังคงรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ หลังจากเมื่อปี 2016 ข้าวหอมมะลิไทยได้ทวงตำแหน่งแชมป์กลับคืนมา และยังคงรักษาแชมป์ได้อีกในปีนี้
ทั้งนี้ การจัดการประกวดดังกล่าวเริ่มจัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2552 ณ เมืองเซบู สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และจะจัดหมุนเวียนไปตามประเทศที่ปลูกข้าวเป็นหลัก โดยจะมีคณะกรรมการตัดสินเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร สมาคมบริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับการทำอาหารในสหรัฐฯ และพ่อครัวที่มีชื่อเสียงในระดับสากลจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมเป็นกรรมการ โดยใช้เกณฑ์การตัดสิน 4 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านกลิ่น รสชาติ ความเหนียวนุ่ม และรูปร่างลักษณะ โดยใช้วิธีตัดสินแบบการทดสอบด้วย Blind Testing ซึ่งไม่ให้กรรมการทราบว่าเป็นข้าวของประเทศใด จากนั้นให้ลงคะแนน และนำผลคะแนนมาตัดสิน
"จากชัยชนะครั้งนี้ ทำให้ข้าวหอมมะลิไทยเป็นแชมป์ข้าวที่รสชาติดีที่สุดในโลกรวมกันถึง 5 สมัย จากการประกวดทั้งหมด 9 ครั้ง โดยไทยเคยคว้าแชมป์รางวัลดังกล่าวได้ในการประกวดครั้งที่ 1 (ปี 2552) ครั้งที่ 2 (ปี 2553) ครั้งที่ 6 (ปี 2554) ครองแชมป์ร่วมกับข้าวผกาลำดวนของกัมพูชา และครั้งที่ 8 (ปี2559) แสดงให้เห็นว่าข้าวไทยเป็นข้าวที่มีรสชาติดีที่สุดในโลก" รมว.พาณิชย์ กล่าว
พร้อมระบุว่า กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่น รักษาคุณภาพ และดูแลมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยอย่างเข้มงวดต่อไป รวมทั้งจะมีการเดินหน้าประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น
นางอภิรดี กล่าวถึงแผนการรักษาคุณภาพมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยว่า จะเดินหน้าสร้างองค์ความรู้ให้เกษตรกรเพื่อปลูกข้าวคุณภาพดี เก็บเกี่ยวในช่วงที่เหมาะสม ส่วนการขยายช่องทางการตลาดนั้น จะดำเนินการทั้งช่องทางปกติ และ Online การจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางเยือนประเทศลูกค้าเป้าหมาย เช่น ฮ่องกง, สิงคโปร์, จีน และสหรัฐฯ เพื่อเจรจาขยายตลาดข้าว และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญ เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทย และการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติในไทย เป็นต้น
รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์ข้าวหอมมะลิไทยในปีการเพาะปลูก 2560/61 ว่า จากการลงพื้นที่ศึกษาผลผลิตข้าวหอมมะลิไทยใน จ.อุบลราชธานี พบว่าภาพรวมผลผลิตข้าวหอมมะลิไทยดีขึ้น แม้บางพื้นที่จะเกิดความเสียหายจากน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นนาลุ่ม แต่พื้นที่นาดอนส่วนใหญ่ไม่ได้รับความเสียหาย ประกอบกับปีนี้มีปริมาณน้ำฝนต่อเนื่องตั้งแต่หลังสงกรานต์และไม่เกิดโรคระบาดในข้าวที่สำคัญ ทำให้ผลผลิตต่อไร่จะดีขึ้นจากปีก่อน รวมทั้งการเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่งผลให้ข้าวหอมมะลิไทยที่จะออกสู่ตลาดมีคุณภาพดีและมีความหอมสูงเป็นที่ต้องการของตลาดในต่างประเทศ อันจะส่งผลให้เกษตรกรชาวนาสามารถขายข้าวเปลือกในราคาที่ดีขึ้นด้วย
สำหรับสถานการณ์ส่งออกข้าวพบว่า ในปี 2560 (ม.ค.-ก.ย.) มีปริมาณส่งออกข้าวหอมมะลิไทย (ต้นข้าว) 1,190,142 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีปริมาณส่งออก 1,054,951 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 12.81% โดยราคาส่งออกเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ 940 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีราคาส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ 650-700 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตลาดส่งออกได้แก่ สหรัฐฯ (27.42%) จีน (11.69%) และฮ่องกง (11.59%)