พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังรับข้อเรียกร้องจากกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง 2 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มแรกนำโดยนายอุทัย สอนหลักทรัยพ์ แกนนำสภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยยท.) เรียกร้องให้ยกเลิกการตั้งบริษัทร่วมทุนกับระหว่างการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กับ 5 เอกชนรายใหญ่ โดยมีความเห็นว่าอาจจะบริหารไม่ถูกต้องและไม่โปร่งใส เช่น การซื้อยางเฉพาะในกลุ่มของตัวเอง และการซื้อยางในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้อง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการเก็บรักษายางพาราที่ไม่เรียบร้อย และการซื้อปุ๋ยที่นำมามอบให้เกษตรกรไม่มีความชัดเจนโปร่งใส ซึ่งแจกจ่ายให้เกษตรกรล่าช้า ทำให้เกิดผลเสีย จึงอยากให้พิจารณาผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยออกจากตำแหน่ง
นอกจากนี้ นายเขศักดิ์ สุดสวาท เลขานุการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย และนายสุรัตน์ เทือกสุบรรณ คณะกรรมการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย มีข้อเรียกร้องให้ กยท. ถอนหุ้นออกจากบริษัท ร่วมทุนยางพาราไทย จำกัด แล้วให้ กยท. เป็นผู้ดำเนินการเอง ซึ่ง กยท. สามารถเป็นนิติบุคคลได้อยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังอยากให้รัฐบาลมุ่งเน้นเรื่องการใช้ยางพาราภายในประเทศ และพิจารณาสั่งพักงานผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย
"ได้เชิญผู้ว่าการ กยท. และประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทยเข้าพบ เพื่อสรุปประเด็นทั้งหมดที่เกษตรกรมีข้อสงสัยในการบริหารจัดการของ กยท. จึงขอให้ชี้แจงเรื่องนี้มาทั้งหมด โดยให้ประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากต้องสั่งการผ่านคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งจะให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้น เพื่อดูข้อเสนอของเกษตรกรทั้ง 2 กลุ่ม รวมถึงตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานผลให้ทราบภายใน 7 วัน" รมว.เกษตรและสหกรณ์กล่าว
พร้อมระบุว่า ระเบียบของการยางแห่งประเทศไทย มีการบริหารจัดการภายใต้ พ.ร.บ.การยาง มีกติกาและวิธีการ จึงไม่สามารถปลดผู้การการยางแห่งประเทศไทยได้ ต้องมีการประเมินโดยบอร์ดการยาง หากพบการกระทำความผิดที่เห็นได้ชัดเจนก็จะดำเนินการได้ จึงต้องมีการฟังความจากทุกด้าน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายด้วย