นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า พพ. อยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษาดำเนินการศึกษาแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการจัดการพลังงานในระบบทำน้ำเย็น ทั้งระบบตามแนวนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อประเมินความคุ้มทุนและความเหมาะสมในการเลือกใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการส่งเสริมและผลักดันนำไปปรับใช้กับอาคารควบคุม โรงงานควบคุมทั่วประเทศปรับปรุงการใช้ไฟฟ้าในระบบทำความเย็นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยคาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จภายในปี 2561
“ผลการศึกษานอกเหนือจากต้องดูเทคโนโลยีล่าสุดที่จะเหมาะสมกับโรงงานและอาคารในปัจจุบันแล้วการศึกษายังจะเป็นการวิเคราะห์สถานภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าในระบบทำความเย็นและระบบปรับอากาศในโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารธุรกิจและแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในระบบทำความเย็นทั้งระบบ"นายประพนธ์ กล่าว
นายประพนธ์ กล่าวว่า แนวทางการศึกษายังจะนำมาซึ่งการพัฒนารูปแบบการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้เกี่ยวข้องทั้งองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งหมดด้านเทคโนโลยีและกำลังคนในการประยุกต์งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมอนุรักษ์พลังงานซึ่งมีเป้าหมายที่จะก่อให้เกิดศักยภาพการอนุรักษ์พลังงานในโครงการไม่น้อยกว่า 2 พันตันน้ำมันดิบเทียบเท่าต่อปี (2ktoe/ปี) หรือคิดเป็นมูลค่าพลังงานไฟฟ้าประมาณ 80 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ที่ผ่านมาพพ.ได้ส่งเสริมให้โรงงานและอาคารธุรกิจปรับปรุงระบบปรับอากาศขนาดใหญ่และระบบทำความเย็นในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ (DSM Chiller) เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานของสถานประกอบการและลดการใช้พลังงานในภาพรวมของประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานเพื่อดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน อนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2558 -2579" ที่มีเป้าหมาย จะลดความเข้มการใช้พลังงานลงร้อยละ 30 ในปี 2579