นายสุขทัศน์ ต่างวิริยะกุล คณะทำงานโครงการจัดตั้งตลาดกลางน้ำยางสด การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เผยตัวแทนบริษัท Einhorn จำกัด ผู้ผลิตถุงยางอนามัยจากประเทศเยอรมนี ได้มาหารือกับ กยท.เขตภาคใต้ตอนล่าง ในการนำผลผลิตน้ำยางสดของเกษตรกรส่งตรงถึงผู้ใช้ในยุโรป พร้อมหาแนวทางการพัฒนาตลาดน้ำยางสดร่วมกัน ณ ตลาดกลางยางพารา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ทั้งนี้ กยท.ได้ส่งเสริมและขับเคลื่อนให้สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตน้ำยางสดร่วมกันขายผลผลิต ณ ศูนย์รวบรวมน้ำยางสด ตลาดกลางน้ำยางสด โดยมี กยท.เป็นองค์กรหลักในการดูแลและบริหารจัดการปริมาณ คุณภาพ และการเจรจาต่อรองราคาให้เกิดความเป็นธรรม
สำหรับตลาดถุงยางอนามัยในประเทศมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปี คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจปีละหลายร้อยล้านบาท ขณะที่ไทยส่งออกถุงยางอนามัยไปเกือบ 70 ประเทศทั่วโลก โดยตลาดถุงยางอนามัยในประเทศแถบยุโรปมีความสนใจเกี่ยวกับการผลิตถุงยางอนามัยที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ 100% เพื่อรณรงค์การรักษาสิ่งแวดล้อม ตลาดถุงยางอนามัยในแถบยุโรปจึงมองหาประเทศที่ส่งออกวัตถุดิบประเภทน้ำยางพาราอินทรีย์เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค
นายศตวรรษ จันทร์ทอง ตัวแทนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางในโครงการตลาดกลางน้ำยางสด กล่าวว่า หลังจาก กยท.เข้ามาช่วยเกษตรกรทำให้ราคายางแผ่นกับน้ำยางสดต่างกันไม่ถึง 2 บาท จากก่อนหน้านี้ที่ต่างกันมากกว่า 10 บาท ส่งผลดีต่อเกษตรกรเป็นอย่างมาก ส่วนการพบกับบริษัทผู้ใช้ยางตัวจริงที่ได้หารือกันในเบื้องต้นเป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งมีการยื่นข้อเสนอในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน โดยทางสถาบันเกษตรกรคาดว่าจะได้ส่วนต่างเพิ่มจากราคาปกติ 5 บาท และบริษัทได้กำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการกำหนดมาตรฐาน ซึ่งจะมีการนัดสรุปผลกันอีกครั้งหนึ่งในเร็วๆ นี้
ด้าน Ms.Katleen Schneider ตัวแทนบริษัท Einhorn เปิดเผยว่า Einhorn เป็นบริษัทผลิตถุงยางอนามัยจากประเทศเยอรมนี มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งจากกระแสการตื่นตัวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในสหภาพยุโรป ทำให้บริษัทมองหาแหล่งวัตถุดิบที่เป็นยางพาราอินทรีย์ และเห็นว่าไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกยางอันดับต้นของโลก จึงได้ประสาน กยท.ในการหารือร่วมกับสถาบันเกษตรกรผู้ผลิตยางโดยตรง เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่ตรงต่อความต้องการ รวมถึงเป็นการจับมือกันในฐานะประเทศผู้ส่งออกถุงยางอนามัยเช่นเดียวกัน เพื่อพัฒนาตลาด และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคอย่างทั่วถึง