ที่ประชุมสภาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 35 ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี สรุปผลการสัมมนาที่เป็นข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการกระจายรายได้และเพิ่มมูลค่าใน 3 ด้าน คือ ด้านการค้าและการลงทุน, ด้านการเกษตรและอาหาร และด้านการท่องเที่ยวและบริการ
โดยด้านการค้าและการลงทุน เสนอมาตรการขับเคลื่อน 5 ข้อ ได้แก่ 1.การอำนวยความสะดวกทางการค้าการขนส่งข้ามแดน โดยเปิดด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ และด่านบ้านฮวก จ.พะเยา, เร่งรัดการเจรจา FTA, การเข้าถึงตลาด (Market access) 2.ส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ:สนธิสัญญาภาษีซ้อน, สิทธิประโยชน์ทางภาษี, การสนับสนุนด้านเงินทุน, จัดตั้งหน่วยงานของไทยในต่างประเทศเพื่อช่วยเหลือนักลงทุนไทยในประเทศนั้นๆ, เพิ่มบทบาทธนาคารรัฐในการส่งเสริมการส่งออก 3.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนและโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก:การวางผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน, การถ่ายทอดเทคโนโลยี, การส่งเสริม SMEs, สิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนเพิ่มเติมใน SEZ, แต่งตั้งผู้ชำนาญการประจำ SEZ 4.กฏระเบียบ:เสนอให้ออกนโยบายที่ให้ความสำคัญกับ E-Security ให้มากยิ่งขึ้น และ 5.ความน่าเชื่อถือ:เสนอให้ภาครัฐและเอกชนร่วมกันทำเครื่องหมายรับประกัน Verified Mark ที่น่าเชื่อถือ, การลงทะเบียนผู้ประกอบการค้า Online
ขณะที่ด้านการเกษตรและอาหาร เสนอมาตรการ 5 ข้อ ได้แก่ 1.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ (Packaging) เพื่อเพิ่มมูลค่าการตลาด 2.การเพิ่มผลิตภาพการผลิตด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร/สหกรณ์ ด้วยการให้ความรู้ด้านการผลิต ด้านการเงิน ด้านการบริหารจัดการ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 3.การสร้างและขยายผลมาตรฐานสินค้า 4.การสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรม (Value Added) และ 5.การตลาดนำการผลิต โดยศึกษาความต้องการของตลาดแล้วเริ่มกระบวนการผลิต
ส่วนด้านการท่องเที่ยวและบริการ เสนอมาตรการขับเคลื่อน 3 ข้อ ได้แก่ 1.จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจสำหรับขับเคลื่อนการท่องเที่ยวชุมชน และยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อทำงานร่วมกัน 2.สนับสนุน "ไทยเท่" เป็นวาระแห่งชาติเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจในพื้นที่แต่ละจังหวัดนำวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของท้องถิ่นมาต่อยอด และ 3.ส่งเสริม Thailand Digital Platform ในยุค 4.0