นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ ปฏิเสธกระแสข่าวข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกหอมจังหวัดราคาตกต่ำ โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดติดตามสถานการณ์ราคาอย่างใกล้ชิด ซึ่งได้รับรายงานว่าขณะนี้ราคาซื้อขายข้าวเปลือกหอมมะลิภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดเกษตรกรขายข้าวได้ตันละ 11,100–13,600 บาท จากในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขายได้ตันละ 9,100–11,500 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลินอกภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ 3 จังหวัด คือเชียงใหม่, เชียงราย และพะเยา หรือที่เรียกว่าข้าวหอมจังหวัด อยู่ที่ตันละ 10,500–13,500 บาท
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการดูแลเกษตรกรแล้ว ทั้งโครงการให้สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 59/60 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนในช่วงเวลาที่เก็บข้าวเอาไว้ในยุ้งฉางเพื่อรอขายให้ได้ราคาดี โดยครอบคลุมข้าวเปลือกทุกประเภท เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 10,800 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 7,200 บาทในทุกจังหวัด ซึ่งเกษตรกรจะได้รับค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉางอีกตันละ 1,500 บาท
นอกจากนี้ ยังได้กำกับดูแลผู้ซื้อให้แสดงราคารับซื้อข้าวเปลือก และตรวจสอบเครื่องชั่ง, เครื่องวัดความชื้นให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตกำลังออกสู่ตลาดมากในขณะนี้ แต่หากเกษตรกรพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายข้าวเปลือก สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 จะส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายทันที
อย่างไรก็ดี ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ประเมินการผลิตและการตลาดข้าวเปลือกฤดูกาลผลิตปี 60/61 ที่กำลังออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.60 โดยกำหนดปริมาณการผลิตไว้ที่ 90% ของผลผลิตข้าวทั้งหมด หรือราว 21.82 ล้านตัน โดยในจำนวนนี้คาดว่าจะมีข้าวหอมมะลิ 7.16 ล้านตันข้าวเปลือก จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 8.07 ล้านตันข้าวเปลือก ลดลง 0.91 ล้านตันข้าวเปลือก ส่วนความต้องการบริโภคข้าวหอมมะลิในประเทศยังคงมีสูง ประกอบกับราคาส่งออกข้าวหอมมะลิในปัจจุบันสามารถแข่งขันได้ ส่งผลให้ตลาดปลายทางในต่างประเทศยังมีความต้องการข้าวหอมมะลิอย่างต่อเนื่อง