น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เผยยอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุนตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน 60 มีมูลค่าทั้งสิ้น 376,570 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นยังเป็นผู้ที่ยื่นคำขอมากสุด ขณะที่เป็นคำขอในกิจการที่เป็นเป้าหมายของรัฐบาล 46% โดยบีโอไอยังคงเป้าหมายยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนไว้ตามเดิมคือ 6 แสนล้านบาท
"บีโอไอยังเดินหน้าเต็มสูบที่จะให้เกิดเร่งรัดการลงทุน ซึ่งมีแพคเก็จทั้งของเก่า ของใหม่ และตอนนี้ก็เร่งเดินสายเพื่อให้คนมายื่นคำขอ ก็เชื่อว่าแนวโน้มน่าจะดี ไม่ได้ปรับเปลี่ยนเป้าหมาย" น.ส.ดวงใจ กล่าว
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่าว่า แนวโน้มการลงทุนยังเป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้น ความต้องการในตลาดมากขึ้น และไทยถือว่าเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของภูมิภาค และสภาพแวดล้อมการลงทุนรัฐบาลได้ปรับปรุงตลอดเวลา ซึ่งบีโอไอจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนมากขึ้น เช่น การเชื่อมโยงการทำงานกับธนาคารพาณิชย์ในการให้การสนับสนุน SME เพื่ออำนวยความสะดวกในการขอสินเชื่อ และการพัฒนาบุคลากรในบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ ให้มีการถ่ายทอดความรู้ให้กับนิสิต นักศึกษาและผู้ประกอบการต่างๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ ช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ของปีนี้มีคำขอส่งเสริมภายใต้มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งหมด 109 โครงการ เงินลงทุน 125,000 ล้านบาท ซึ่งนำไปปรับปรุงทั้งเรื่องการทำแผงโซล่าร์เซลล์ การติดตั้งอุปกรณ์ลดปัญหาน้ำเสีย ปรับปรุงคุณภาพอากาศ และการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ เป็นต้น ซึ่งคำขอในเรื่องนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำไปปรับปรุงประสิทธิภาพสินค้าให้ดีขึ้น