นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ให้การสนับสนุนสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินกิจกรรมเพื่อขยายศักยภาพผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ในรูปแบบต่างๆ ด้วยเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด โดยผู้บริโภคได้ให้ความสนใจทำธุรกรรมผ่านอีคอมเมิร์ซมากยิ่งขึ้น ผลักดันธุรกิจไทยให้สามารถเติบโตและขยายศักยภาพการค้าไปสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างผู้ค้าออนไลน์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะทำให้ประเทศไทยรักษาความเป็นผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในอาเซียนได้อย่างแข็งแกร่ง
โดยจัดงาน “Thailand e-Commerce Week 2017" ภายใต้แนวคิด “Online! Shall We GO… วิ่งให้ทันโอกาส เพราะตลาดอีคอมเมิร์ซไม่รอใคร" เพื่อส่งเสริมและเพิ่มโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาการทำธุรกิจผ่านอีคอมเมิร์ซให้ประสบความสำเร็จ
"ภายในงาน ธนาคารได้จัดเตรียมผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการทุกกลุ่มที่สนใจทำธุรกิจในตลาดอีคอมเมิร์ซ ตั้งแต่ผู้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (Starter) หรือทำธุรกิจในลักษณะ C2C (Customer-to-Customer) ผู้ประกอบการธุรกิจที่ต้องการขยายตลาดสู่อีคอมเมิร์ซ (Offline to Online) หรือทำธุรกิจในลักษณะ B2C (Business-to-Customer) รวมไปถึงผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องการขยายสู่ตลาดต่างประเทศ (Go Inter) ก็สามารถเข้ามาสอบถามข้อมูล แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ตลอดจนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เหมาะสม ซึ่งธนาคารกรุงเทพพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มได้อย่างเต็มที่" นายทวีลาภ กล่าว
พร้อมกันนี้ ธนาคารได้จัดเตรียมพื้นที่ในลักษณะ Talking Corner เพื่อจัดกิจกรรม Mini Talk สำหรับลูกค้าที่สนใจและผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และแนวทางการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้บรรลุเป้าหมาย พร้อมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญไว้คอยให้คำปรึกษา แนะนำผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของลูกค้าดำเนินการได้ครบวงจรสมบูรณ์แบบ เช่น บริการรับ-โอนเงินระหว่างประเทศรูปแบบต่างๆ บริการรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านเครื่องรับบัตรเครดิต บริการ PromptPay QR Code และบริการ Merchant iPay ซึ่งเป็นช่องทางการรับชำระค่าสินค้าและบริการที่หลากหลาย ทั้ง QR Code บัตรเครดิตและบัตรเดบิตจากทุกธนาคารทั่วโลก ผ่านอีคอมเมิร์ซและแอปพลิเคชัน รวมถึงความร่วมมือกับ Thaitrade.com SOOK ซึ่งเป็น e-marketplaceที่ช่วยให้ SMEs ไทยสามารถซื้อ-ขายสินค้าและบริการออนไลน์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ที่ผู้ประกอบการสามารถมาขอรับคำปรึกษาได้เช่นกัน
“ทุกวันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซมีความสำคัญ และนับวันยิ่งมีมูลค่าการค้าสูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่นิยมการสั่งซื้อสินค้าจากช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจต้องปรับตัวพร้อมให้บริการกับลูกค้าในตลาดนี้ด้วย เช่นเดียวกับบริการทางการเงินที่พร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย โดยเฉพาะในช่องทางดิจิทัล ทั้งรับโอนเงิน การชำระผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต การตรวจสอบ และการสรุปยอดรายการได้อย่างรวดเร็ว บนพื้นฐานที่สำคัญในด้านความปลอดภัยและเชื่อถือได้ ซึ่งธนาคารกรุงเทพสามารถตอบโจทย์ได้ครบถ้วนตามความต้องการ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น" นายทวีลาภ กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการและผู้สนใจ สามารถเข้าร่วมงาน “Thailand e-Commerce Week 2017" ได้ฟรี ซึ่งปีนี้ถูกจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Online! Shall We GO… วิ่งให้ทันโอกาส เพราะตลาดอีคอมเมิร์ซไม่รอใคร" ในระหว่างวันศุกร์ที่ 24 ถึงวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 ณ ห้องเพลนารี่ฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษา พร้อมรับฟรีของที่ระลึกที่บูธธนาคารกรุงเทพ