พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นประธานการประชุมเรื่องการบูรณาการการปฏิบัติงานตามกฎหมายฟอกเงิน ระหว่างสำนักงาน ปปง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในการดำเนินการกับกลุ่มผู้กระทำความผิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานขึ้นเพื่อเน้นการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลเยียวยาประชาชนให้ได้รับเงินที่ถูกหลอกโอนไปยังคนร้ายกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด
ขณะนี้ตรวจสอบพบว่าในปี 60 มีความเสียหายจากคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์เบื้องต้นประมาณ 60 ล้านบาทและเตรียมขยายผลหาเครือข่ายผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ทุกหน่วยงานมีผู้ประสานงานหลักและเดินหน้าทำงานพร้อมกัน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
"สถาบันการเงินจะช่วยตรวจสอบและหยุดการถอนหรือเบิกเงินกรณีประชาชนถูกหลอกลวง ส่วนเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ตรวจสอบการโทรของคนร้ายว่ามาจากในประเทศหรือต่างประเทศและการโทรเป็นลักษณะใด อีกทั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติและดีเอสไอจะเก็บพยานหลักฐานเอาผิดเพื่อดำเนินการจับกุมคนร้ายต่อไป" พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าว
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า การบูรณาการทำงานของทุกหน่วยงานเน้นทั้งการป้องกันและปราบปราม โดยการป้องกันเพื่อต้องการนำเงินผู้เสียหายมาคืนโดยเร็ว ส่วนการปราบปรามเพื่อจับกุมคนร้ายมาลงโทษ ซึ่งทางตำรวจออกหมายจับ 107 หมาย จับกุมได้แล้วกว่า 90 ราย และขณะนี้ยังคงกวาดล้างติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ตลอด