(เพิ่มเติม) รมว.พลังงานคนใหม่ มอบนโยบายขับเคลื่อนภารกิจสำคัญ บริหารจัดการแหล่งปิโตรเลียม-บูรณาการพลังงานระยะยาว

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 1, 2017 10:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้เข้าสักการะพระพรหม ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพลังงาน ณ ศาลพระพรหม ภายในศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ ตั้งแต่เมื่อเวลา 06.39 น.วันนี้ โดยมีนายธรรมยศ ศรีช่วย ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงพลังงานให้การต้อนรับ

หลังจากนั้นรมว.พลังงานคนใหม่ ได้เดินทางไปเข้าร่วมประชุมและมอบนโยบายการขับเคลื่อนภารกิจที่สำคัญของกระทรวงพลังงานให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน อาทิ การขับเคลื่อนบูรณาการพลังงานระยะยาว นโยบาย Energy 4.0 และการบริหารจัดการการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ และการบริหารจัดการแหล่งปิโตรเลียมที่ใกล้จะหมดอายุ เป็นต้น

อนึ่ง นายศิริ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรมว.พลังงาน เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นรมว.พลังงาน คนที่ 12 โดยก่อนหน้านั้น นายศิริ เคยดำรงตำแหน่ง อาทิ ผู้อำนวยการสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เป็นต้น

นายศิริ กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนที่จะต้องเร่งดำเนินการมี 4 เรื่องหลัก คือ 1. การดำเนินงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อทำให้พลังงานของประเทศไทยสร้างความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนให้ประเทศต่อไป 2. การประมูลแหล่งปิโตรเลียมที่จะหมดอายุสัมปทานปี 65-66 ทั้งแหล่งเอราวัณ และแหล่งบงกช เป็นปัจจัยสำคัญต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศอย่างมากจึงจำเป็นต้องมีความชัดเจนในเรื่องนี้ โดยในส่วนของการเปิดประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมหมดอายุนั้น จะเริ่มหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวันนี้ ทั้ง บมจ.ปตท. (PTT) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมที่สุด

3.ความมั่นคงด้านไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ จะขอหารือกับผู้เกี่ยวข้องประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนจะชี้แจงกับสาธารณชนให้ทราบแนวทางว่ากระทรวงพลังงานจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เนื่องจากการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ภาคใต้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่เป็นเรื่องสำคัญต่อความมั่นคงพลังงานและเกี่ยวข้องกับค่าไฟฟ้าที่เป็นค่าครองชีพประชาชนทั้งประเทศ ขณะเดียวกันชาวบ้านรอบโรงไฟฟ้ายังกังวลเรื่องความปลอดภัย ดังนั้นภาครัฐต้องสร้างความมั่นใจให้ประชาชนให้ได้ด้วย

4.กระทรวงพลังงานจะทำงานเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นกระทรวงพลังงานเตรียมหารือกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิจารณาเรื่องสต็อกน้ำมันปาล์ม เพื่อสร้างเสถียรทั้งภาพปริมาณและราคาปาล์มให้เกิดขึ้นในประเทศ โดยจะมีการหารือเกี่ยวกับสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล (B100) ในน้ำมันดีเซล เพราะจะมีผลเกี่ยวเนื่องกับปริมาณสำรองราคาปาล์มในประเทศ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานที่จะไม่สร้างภาระให้ผู้ใช้น้ำมันดีเซลมากเกินไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ