นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า วันนี้มาให้กำลังใจ ซึ่งมองว่า กระทรวงเกษตรฯถือเป็นกระทรวงเกรดเอ โดยขอให้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของรัชกาลที่ 10 ที่รับสั่งให้ดูแลประชาชนให้มีความสุข พร้อมทั้งกำชับให้เร่งเครื่องทำงานให้กับเกษตรกรเชื่อจะเห็นผลเปลี่ยนแปลงภายใน 3 เดือน
พร้อมทั้งให้ทางกระทรวงยึดแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ปีหน้าต้องการให้ทางกระทรวงให้ความช่วยเหลือเกษตรกรให้เกิดความเข้มแข็งและทำให้เศรษฐกิจฐานรากหมุนเวียนได้ ซึ่งจะส่งผลดีให้เศรษฐกิจเติบโตด้วย
“ทุกอย่างต้องเร่งเครื่องออกมา ผมเชื่อ 3 เดือนจะมีการเปลี่ยนแปลง มันต้องดีขึ้นแน่นอน"นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรประมาณ 20-30 ล้านคน แต่มีส่วนร่วมในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียง 8-9% เท่านั้น จึงมองเห็นว่ายังมีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ ทั้งนี้ได้สั่งการให้มีการทำงานบูรณาการร่วมกัน กับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬา และกระทรวงพาณิชย์ ในการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม ในระยะเร่งด่วนต้องเร่งแก้ไขปัญหาทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูกาลผลิต สำหรับปัญหาราคายาง ถือเป็นปัญหาสะสมมา 15 ปี เนื่องจากมีการขยายพื้นที่ปลูกยางเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีผลผลิตล้นตลาด ซึ่งการแก้ไขปัญหาระยะสั้นต้องประคองราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม และในระยะยาว ต้องมีการหารือกับผู้ประกอบเพื่อทำให้ยางมีมูลค่ามากขึ้น พร้อมทั้งให้มีการส่งเสริมด้านปศุสัตว์ ด้วยการจัดหาโคให้กับชุมชน
สำหรับการแก้ปัญหาเกษตรในระยะกลางและระยะยาว ต้องทำให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พัฒนาให้เกิด SMEภาคเกษตร ปรับเปลี่ยนให้มีการทำเกษตรแปลงใหญ่ ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรและเทคโนโลยีมาใช้ และด้านสหกรณ์ จะต้องเร่งสร้างให้มีความเข้มแข็ง โดยไม่จำเป็นต้องรอการอการออกพ.ร.บ. แต่ต้องเดินหน้าไปก่อน โดยเน้นการแก้ไขปัญหาหนี้สินสหกรณ์ รวมถึงต้องมีการจัดทำฐานข้อมูล Big Data โดยรวบรวมข้อมูลจากหลายๆกระทรวง เพื่อทำให้การแก้ไขปัญหาเกษตรกรได้ตรงจุด