นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคมให้นโยบายคณะกรรมการและผู้บริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) และเปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายเร่งด่วนในการจัดหารถเมล์ใหม่โดยเฉพาะรถเอ็นจีวี 489 คัน ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีการเชิญเอกชนเข้ามาร่วมประมูลขายรถ มีเอกชนสนใจ 1 ราย และทราบว่า ในสัปดาห์หน้าคณะกรรมการขสมก.จะประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะต้องติดตามต่อไปว่า คณะกรรมการขสมก.จะสรุปเรื่องการเสนอราคาของเอกชนและเปิดประมูลต่ออย่างไร แต่เชื่อว่า การเปิดประมูลรอบนี้น่าจะได้ผลสำเร็จ แต่เบื้องต้นได้ขอให้คณะกรรมการขสมก.ปฎิบัติตามพรบ.จัดซื้อจัดจ้างอย่างเคร่งครัด ขณะที่เป้าหมายจัดหารถใหม่เข้ามาให้บริการยังคงเป็นไปตามที่กระทรวงคมนาคม กำหนดไว้ว่า เปิดภาคเรียนของปีการศึกษา 2561 ขสมก.จะต้องมีรถใหม่เพื่อให้บริการเด็กนักเรียนในกทม.และพื้นที่ใกล้เคียง
สำหรับปัญหาการฟื้นฟูกิจการของขสมก. ซึ่งเบื้องต้นได้ขอให้ขสมก.จัดทำแผนเพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.)ให้เร็วที่สุดส่วนปัญหาภาระหนี้ที่ขสมก.มีกว่า 100,000 ล้านบาท และมีคำถามอยู่ตลอดเวลาว่า รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไรนั้น เรื่องดังกล่าวถือเป็นประเด็นสำคัญและกระทรวงคมนาคมวิเคราะห์ปัญหาว่า ที่ผ่านมาการที่ขสมก.เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของกระทรวงคมนาคม ซึ่งถือเป็นกระทรวงใหญ่ ไม่ได้อยู่ภายใต้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือกรุงเทพมหานคร(กทม.)ส่งผลให้การปรับราคาค่าโดยสารที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาลและการเมืองก็ทำให้การปรับราคาค่าโดยสารดำเนินการได้ยาก ดังนั้นในวันนี้ จึงได้มีคำถามไปถึงฝ่ายบริหารและคณะกรรมการขสมก.ว่า ตามแนวทางที่ถูกต้อง ขสมก.ควรเป็นหน่วยงานอยู่ในสังกัดใด ซึ่งเรื่องนี้ อยากให้ขสมก.เป็นผู้เสนอความเห็นขึ้นมาเพื่อให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่เป็นส่วนสำคัญของการขนาดทุนของขสมก.เนื่องจากเป็นบริการสาธารณะ ซึ่งตามข้อเท็จจริงบริการรถเมล์สาธารณะในต่างประเทศที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้กำกับองค์กรภาครัฐก็จะต้องมีการชดเชยผลการดำเนินการให้แก่หน่วยงาน เพื่อรักษามาตรฐานการบริการแก่ประชาชนได้มีรถเมล์ใช้ที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันยังมีปัญหาว่า การให้บริการรถเมล์โดยสารซึ่งปัจจุบันนี้ รถเมล์ที่มีอยู่ในระบบในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมลฑล ขสมก.มีรถให้บริการไม่ถึงครึ่งโดยที่เหลือเป็นรถร่วมบริการ และจากข้อมูลก็พบว่า ข้อเท็จจริงนั้น รถเมล์ของ ขสมก.เป็นรถบริการที่มีคุณภาพ และต้องไปพิจารณาต่อไปว่า ในอนาคตยังจำเป็นต้องมีระบบรถร่วมบริการหรือไม่ก็ต้องไปพิจารณาในรายละเอียดต่อไป ทั้งนี้ รมช.คมนาคมยังได้ฝากการบ้านให้ผู้บริหารขสมก.พิจารณาเรื่องการนำระบบเทคโนโลยีมาให้บริการในส่วนงานเก็บค่าโดยสารเช่น ระบบ QR CODE เพื่อให้การเก็บค่าโดยสารรถมีความสะดวกและรวดเร็วประชาชนสามารถใช้บริการครอบคลุมในทุกกลุ่ม