นายพสุ เดชะรินทร์ คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในการสัมมนาฟันธงธุรกิจไทย 2561 หัวข้อ"แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในปี 61"ว่า ในปีหน้าจะเป็นปีที่มีความหลากหลายมากขึ้นในการทำงานภายในองค์กรที่จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ โดยจะเห็นการนำเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) มาช่วยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ รวมถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาเชื่อมโยงและผสานเข้าด้วยกันเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับ โครงสร้างประชากร การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และพฤติกรรมของผู้บริโภค
ประเด็นที่ภาคธุรกิจต้องให้ความสำคัญเพื่อเป็นปัจจัยในการวางแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เช่น Experience Economy ซึ่งเป็นการที่คนให้ความสนใจกับประสบการณ์มากกว่าสินค้าที่ได้รับ ส่งผลให้การขายออนไลน์ให้รุ่งต้องมีหน้าร้านออฟไลน์เสริม หรือเรียกว่ากลยุทธ์ O2O Premiumization ที่เป็นการซื้อของน้อยชิ้น เน้นตอบสนองคุณค่าทางอารมณ์ และมีนวัตกรรมแบบ Simplicity การพัฒนานวัตกรรมที่เรียบง่ายแต่โดนใจ Connected Customer ผู้บริโภคสามารถเกาะติดการเชื่อมต่อจนก่อให้เกิดการแบ่งกลุ่มย่อยที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของช่วงวันอีกต่อไปแต่เป็นไลฟ์สไตล์ตามพฤติกรรมการแสพติดดิจิทัล และท้ายที่สุด Healthy & Ethical Living ไม่ไช่แค่สุขภาพกายที่ดีเท่านั้น แต่สุขภาพจิตก็ต้องดีด้วยเช่นกัน
นอกจากการปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคแล้ว ธุรกิจที่เติบโตได้ดีในภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตต่อเนื่องในปี 61 ราว 3-4% โดยจะมาจากธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจส่งออก ที่ได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการลงทุนของภาครัฐ เช่น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งได้อานิสงส์จากการลงทุนของภาครัฐในโครงการขนาดใหญ่ด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ภายในประเทศ
นายศรัณย์ ชูเกียรติ หัวหน้าภาควิชาการบัญชี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ข้อมูลทางบัญชีถือว่ามีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ สามารถนำมาใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจและการคาดการณ์แนวโน้มต่างๆในอนาคต โดยปัจจุบันมีข้อมูลต่างๆที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้การรวบรวมข้อมูลและการนำข้อมูลไปใช้อาจจะมีอุปสรรคเกิดขึ้นบ้าง ปัจจุบันจะเห็นว่าเริ่มมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น ส่ผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการนักบัญชีที่เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง
ปัจจุบันเริ่มมีการนำ AI ที่สามารถวิเคราะห์ได้มาช่วยในการตัดสินใจ จะเห็นได้จากการเริ่มใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางบัญชี และการช่วยจัดทำข้อมูลทางบัญชี ซึ่งมีความรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำ โดยมองว่าในอนาคตอีกไม่นานนี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของการนำ AI มาทดแทนงานบางประเภทจำพวกงาน Routine ที่มนุษย์สามารถทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์มากนัก ซึ่งมองว่ามีโอกาสที่งานทางด้านบัญชีบางประเภทจะเปลี่ยนเป็นการดำเนินการด้วย AI แทนมนุษย์ เพื่อทำให้การบันทึกบัญชีต่างๆมีความรวดเร็วมากขึ้น และส่งผลดีต่อการนำข้อมูลไปใช้ประกอบการต่ดสินใจในการวางแผนธุรกิจ
นอกจาก AI จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านบัญชีแล้ว ด้านการลงทุนมีโอกาสที่ AI จะมีบทบาทมากขึ้นในการช่วยลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้นที่ AI จะเข้ามามีบมบาทในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุน และช่วยตัดสินใจการลงทุนได้ มองว่ามีความแม่นยำกว่าการใช้ข้อมูลทางเทคนิคที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมียังมีโอกาสที่ผิดพลาดเกิดขึ้นได้
ส่วนภาคสถาบันการเงินมีโอกาสที่ AI จะเข้ามามีบทบาทต่อการพิจารณาให้สินเชื่อ ซึ่ง AI มีการเก็บข้อมูลทางบัญชีของลูกค้าแต่ละรายไว้ไนระบบ ทำให้สามารถทราบข้อมูลทางบัญชีและสถานะการเงินของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างรวดเร็ว
นายสันสกฤต วิจิตรเลขการ อาจารย์ภาควิชาการบัญชี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แม้การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีจะเกิดขึ้น แต่การดำเนินการต่างๆของธุรกิจในเรื่องของการบันทึกและเปิดเผยข้อมูลยังคงต้องเป็นไปตามกฏระเบียบ หรือการมี Compliance ที่จะต้องเป็นไปตามหน่วยงานกำกับต่างๆที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจ แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่คนในและคนนอกองค์กรมีมุมมองที่ต่างกัน แต่มองว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องยอมรับเพื่อให้การดำเนินการต่างๆเป็นไปตามกฏระเบียบ และสะท้อนภาพต่อการทำโมเดลทางธุรกิจที่ยั่งยืนและมีธรรมาภิบาลมากขึ้น
นายศรัณย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อทุกการเปลี่ยนแปลงในโลกเกิดขึ้น สิ่งที่นักบัญชีทุกคนควรคำนึงอยู่เสมอ เพื่อสามารถทำให้นักบัญชียังเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันองค์กรให้เติบโต ได้แก่ เป็นผู้ที่มีความสามารถในการเป็นที่พึ่งพาของฝ่ายบริหาร ในการนำข้อมูลทางบัญชี ซึ่งถือเป็นข้อมูลสารสนเทศมาช่วยแนะนำ และประกอบการตัดสินใจเพื่อวางแผนธุรกิจ การเป็นคนที่สามารถร่วมมือร่วมใจกับทุกคนในองค์กรได้เป็นอย่างดี และนักบัญชีจะต้องเป็นผู้รับมือต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว