น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงิน และเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.60 ธปท. ได้อนุญาตเพิ่มเติมให้สถาบันการเงินที่มีความพร้อมและผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ออกจาก regulatory sandbox และสามารถให้บริการเป็นการทั่วไปอีก 3 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY), ธนาคารทหารไทย (TMB) และธนาคารธนชาต (TBANK) โดยการพิจารณาอนุญาตยังคงครอบคลุมความพร้อมในเรื่องสำคัญ คือ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหารความเสี่ยง การคุ้มครองผู้บริโภคและความปลอดภัย รวมทั้งการเตรียมสาขาและ call center ของธนาคาร เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับการพิจารณาอนุญาตในรอบแรก
สำหรับบริการชำระเงินด้วยมาตรฐาน Thai QR Code ผ่านระบบพร้อมเพย์ของทั้ง 8 ธนาคาร เป็นทางเลือกในการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สะดวก ต้นทุนต่ำ ตอบสนองการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนที่นิยมใช้โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนในการทำธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้น สามารถใช้รองรับการรับชำระเงินของทั้งร้านค้าขนาดเล็ก ขนาดกลาง และธุรกิจขนาดใหญ่ อาทิ แผงขายของ ร้านอาหาร ตลาดสด หรือห้างสรรพสินค้า ตลอดจนสามารถต่อยอดนวัตกรรมทางการเงินได้อีกหลากหลายในอนาคต โดยผู้ประกอบการสามารถปรึกษาธนาคารผู้ให้บริการและเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมกับตนเอง ส่วนด้านลูกค้าที่ต้องการชำระเงินผ่านมาตรฐาน Thai QR Code สามารถ download mobile application และศึกษาวิธีใช้จากผู้ให้บริการที่ลูกค้าใช้งานอยู่
ทั้งนี้ บริการชำระเงินด้วยมาตรฐาน Thai QR Code ยังมีแผนงานที่จะขยายบริการให้รองรับช่องทางการชำระเงินได้มากขึ้น อาทิ บัตรเครดิต ซึ่ง ธปท. สนับสนุนให้เกิดการใช้งานอย่างกว้างขวาง มีผู้ให้บริการที่หลากหลาย สามารถให้บริการที่เข้าถึงประชาชนในวงกว้าง โดยจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
อนึ่ง ธนาคารที่ได้รับอนุญาตให้บริการชำระเงินด้วยมาตรฐาน Thai QR Code ได้เป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 13 พ.ย.60 แล้ว 5 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK), ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ธนาคารกรุงไทย (KTB), ธนาคารกรุงเทพ (BBL)และธนาคารออมสิน