นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวมอบนโยบายให้กับผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวกว่า 34 ล้านคนแล้ว อยากให้มีการพัฒนาและขยายการท่องเที่ยวไปสู่เมืองรอง หรือระดับชุมชนให้มากขึ้น เพื่อกระจายรายได้ให้กับชุมชนมากขึ้น โดยเตรียมนำมาตราการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองเข้าสู่ที่ประชุม ครม. โดยมอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปหารือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เกี่ยวกับโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทยได้เตรียมงบประมาณของ อปท.ไว้สนับสนุนแล้วกว่าแสนล้านบาท
"ในปี 61 มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยยังจะเติบโตได้ดี จะเน้นการยกระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็ง แก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งด้านการท่องเที่ยวจะมีส่วนสำคัญมาก"
นายสมคิด ได้ให้การบ้านกับทุกหน่วยงานร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวในระดับชุมชม ไม่ให้กระจุกตัวเพียงแต่เมืองหลัก และมอบให้ ททท.หามาตรการจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองรองมากขึ้น พร้อมทั้งให้มีการเชื่อมต่อการคมนาคมให้ครบวงจร ให้นักท่องเที่ยวสามารถลงจากสนามบินและสามารถเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนได้ ทั้งทางถนนและรถไฟ
นายสมคิด กล่าวว่า ในส่วนสินค้าโอทอปต้องมีการพัฒนาให้สินค้ามีเรื่องราวประกอบที่น่าสนใจ และต้องมีการพัฒนาด้านคมนาคมให้เข้าถึงแหล่งผลิตสินค้าโอทอปด้วย ซึ่งเชื่อว่าหากจังหวัดใดสามารถทำได้จะต้นแบบให้จังหวัดอื่นๆ ทำตามต่อไปได้
ด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา กล่าวว่า สำหรับมาตรการส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทยนั้น กระทรวงจะจัดทำให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะทันเข้า ครม.ก่อนสิ้นปีนี้หรือไม่ ซึ่งในมาตรการจะมีทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง โดยนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวในเมืองรองสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และมาตรการลดหย่อนภาษีป้ายร้านค้าหรือภาษีโรงเรือน กรณีหากมีร้านค้าในแหล่งท่องเที่ยวชุมชมจัดทำห้องน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว
รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า จะนำการบ้านเรื่องการเชื่อมต่อการคมนาคมให้ครบวงจร ให้นักท่องเที่ยวสามารถลงจากสนามบินและสามารถเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนได้ ทั้งทางถนนและรถไฟ การจัดทำป้ายสถานที่ท่องเที่ยวให้มีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการจัดทำแผนที่เฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป