นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างเร่งจัดทำหลักเกณ์และเงื่อนไขการประมูลแหล่งปิโตรเลียมที่จะหมดอายุสัมปทานปี 2565-2566 ทั้งแหล่งบงกชและแหล่งเอราวัณ ซึ่งทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะมีการจัดประชุมวันที่ 16 ธ.ค.นี้ เพื่อเร่งดำเนินการหาข้อสรุป อาทิ 1.ปริมาณสำรองและปริมาณการผลิต, 2.การรื้อถอน, 3.มาตรการที่จะหนุนให้ผู้ประกอบการรายเดิมรักษาระดับการผลิตไปจนถึงปี 2565-2566 ,4.มาตรการหนุนให้ผู้ประกอบการรายใหม่พร้อมภาครัฐเข้าไปดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมในการผลิตในเร็ววัน และ5.หลักการเกี่ยวราคาก๊าซธรรมชาติและผู้ซื้อ
รมว.พลังงาน คาดว่าทีโออาร์จะมีความชัดเจนภายในเดือนม.ค.2561 และน่าจะสามารถออกประกาศเชิญชวนเปิดประมูลได้ภายในเดือน ก.พ.2561
"หากมีความชัดเจนโดยเร็วอาจได้รายชื่อผู้ชนะการประมูลเร็วกว่าเดิมที่คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 7-8 เดือน" รมว.พลังงาน ระบุ
สำหรับมาตรการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ(CPO) เพื่อใช้ในภาคพลังงาน ตามมติคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ต้องการให้ดูดซับ CPO มาใช้ในภาคพลังงานเพิ่ม 1-1.5 แสนตันนั้น รมว.พลังงาน กล่าวว่า เบื้องต้นทางกระทรวงพลังงานขอความร่วมมือผู้ผลิต B100 เก็บสต็อก CPO เพิ่มอีก 5 หมื่นตัน ส่วนผู้ค้าน้ำมัน มาตรา 7 นำ CPO 5 หมื่นตัน มาผลิต B100 เพิ่มขึ้นอีกจากปัจจุบันผลิต 4 ล้านลิตรต่อวัน
นอกจากนี้พบว่าถังยังเพียงพอต่อการเก็บสต็อก ปัจจุบันสต็อก B100 อยู่ที่ 92 ล้านลิตร เทียบความจุถังที่ 165 ล้านลิตร ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงขอความร่วมมือเก็บเพิ่มอีก 60 ล้านลิตรภายใน 1 เดือน อย่างไรก็ตามสต็อกในส่วนที่เพิ่มขึ้นจากปกตินั้น จะนำมาเก็บไว้ในสต็อกก่อน ยังไม่นำออกมาใช้ โดยกระทรวงพลังงานจะหามาตรการเพื่อส่งเสริมการใช้ในภาคพลังงานเพิ่มขึ้น
เบื้องต้นยังคงมาตรการสัดส่วนการผสม B100 ในเนื้อน้ำมันดีเซล สัดส่วน 7% ตลอดทั้งปี จะช่วยให้ความต้องการใช้ B100 เพิ่มสูงขึ้น เทียบกับปีก่อนที่เกิดปัญหาปาล์มน้ำมันขาดแคลน ทำให้กรมธุรกิจพลังงานต้องปรับลดสัดส่วนลงเหลือระดับ 3-5% นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างทดสอบการนำ B100 ผสมในน้ำมันดีเซลสัดส่วน 10% เป็น B10 รวมทั้งศึกษาน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 เพื่อใช้ในเครื่องจักรกลบางประเภทด้วย
“มาตรการดูดซับ CPO ในสต็อกระดับ 1 แสนตัน โดยขอความร่วมมือผู้ผลิตไบโอดีเซล B100 เก็บสต็อก CPO เพิ่มขึ้นอีก 5 หมื่นตัน ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 นำ CPO จำนวน 5 หมื่นตัน ไปผลิตน้ำมันไบโอดีเซล B100 ได้ในปริมาณ 2 ล้านลิตรต่อวัน หรือคิดเป็นเก็บสต็อกเพิ่มอีก 60 ล้านลิตร จากปัจจุบันสต็อกน้ำมัน B100 อยู่ที่ 92 ล้านลิตร ส่งผลให้สต็อกเพิ่มขึ้นเป็น 152 ล้านลิตรโดยปัจจุบันความต้องการใช้ CPO ในภาคพลังงานอยู่ที่ระดับ 1.05 แสนตันต่อเดือน มีกำลังการผลิตน้ำมัน B100 อยู่ที่ 4 ล้านลิตรต่อวัน เทียบกับความต้องการใช้น้ำมัน B100 อยู่ที่ 3.9 ล้านลิตรต่อวัน"นายศิริ กล่าว
ส่วนการสต็อก CPO ที่เพิ่มขึ้นนั้น ได้หารือกับผู้ค้า มาตรา 10 และมาตรา 7 พบว่าทางผู้ค้าพร้อมให้การช่วยเหลือเกษตรกร ส่วนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการเก็บสต็อก คิดเป็นประมาณ 2,400 ล้านบาท สำหรับฤดูกาลใหม่ปี 2561 จะมีผลผลิตปาล์มดิบออกสู่ท้องตลาดเพิ่มขึ้นนั้น กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการหามาตรการรองรับเพิ่มเติม
นอกจากนี้กระทรวงพลังงานยืนยันว่าจะไม่นำ CPO ไปเผาเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้การนำ CPO ไปเผาเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้ากระบี่ คิดเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร 35 ล้านบาท แต่ต้นทุนที่กระทบในค่าไฟฟ้า คิดเป็น 450 ล้านบาท