นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์เตรียมเปิดให้เอกชนยื่นประมูลพัฒนาพื้นที่ราชพัสดุเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 3 จังหวัด รวมกว่า 5,800 ไร่ ภายในเดือน ม.ค.61 ประกอบด้วย จ.ตาก พื้นที่ประมาณ 1,500 ไร่, จ.กาญจนบุรี พื้นที่ประมาณ 2,900 ไร่ และ จ.นครพนม พื้นที่ประมาณ 1,300 ไร่ โดยเชื่อว่าในแต่ละพื้นที่จะได้รับความสนใจจากภาคเอกชนในการเข้ามาลงทุนเป็นอย่างดี และคาดว่าเมื่อได้ผู้ชนะการประมูลแล้ว จะสามารถเดินหน้าการลงทุนได้อย่างเร็วที่สุดภายในกลางปี 2561 หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินช่วงไตรมาส 3 ของปีหน้า
สำหรับที่ราชพัสดุใน จ.ตาก มีจุดเด่นเรื่องการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน และการทำโลจิสติกส์ ขณะที่ที่ราชพัสดุ จ.กาญจนบุรี มีจุดเด่นและเหมาะกับการทำอุตสาหกรรมการเกษตร และเกษตรแปรรูป ส่วนที่ราชพัสดุ จ. นครพนมนั้น เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายของอุตสาหกรรม
"กรมธนารักษ์ได้เตรียมแผนรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว กรณีถ้าหากไม่มีเอกชนให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลเพื่อลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว โดยเบื้องต้นจะมีมาตรการยกเว้นค่าเช่าให้กับภาคเอกชน เช่น หากลงทุนภายใน 1 ปีหลังประกาศผลการประมูลแล้ว จะได้รับการยกเว้นค่าเช่าเป็นเวลา 2 ปี แต่หากลงทุนภายใน 2 ปี จะได้รับการยกเว้นค่าเช่า 1 ปี ซึ่งเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวน่าจะช่วยจูงใจให้เอกชนได้เป็นอย่างดี" นายพชร กล่าว
พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมากรมธนารักษ์ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้สั่งให้กลับไปทบทวนหลักเกณฑ์และแนวทางการให้เช่าที่ราชพัสดุเพื่อจัดทำเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ใน จ.มุกดาหาร และ จ.หนองคาย หลังจากได้เปิดประมูลแต่กลับไม่ได้รับความสนใจ โดยพบว่าอาจติดปัญหาในเรื่องกายภาพหรือส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ให้ไปเร่งพิจารณาเพื่อให้สามารถเปิดประมูลสำหรับพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวได้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นอาจต้องกำหนดแนวทางการดำเนินการด้านอื่น ๆ เสริม ซึ่งจะต้องพิจารณาให้เหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเสนอกลับไปให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวพิจารณา ก่อนจะมีการเปิดประมูลที่ราชพัสดุใน จ.มุกดาหาร และ จ.หนองคายอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้กำหนดอัตราค่าเช่าที่ราชพัสดุ จ.กาญจนบุรี อยู่ที่ไร่ละ 1,200 บาทต่อปี ปรับปรุงค่าเช่า 9% ทุก 3 ปี และค่าธรรมเนียมการจัดให้เช่าไร่ละ 2 หมื่นบาทต่อ 50 ปี ระยะเวลาการเช่า 50 ปี ขณะที่คุณสมบัติของเอกชนผู้เสนอการลงทุน จะต้องเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย และมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท เป็นต้น