การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ผุดบริการใหม่รองรับความต้องการของผู้ประกอบการยุคดิจิทัลและการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม นำร่องใช้ระบบบริการอนุญาต อนุมัติ นำเข้า-ส่งออก แบบมีคิวอาร์โค้ดโดยไม่ต้องมีลายเซ็นของ กนอ. ผู้ประกอบการในนิคมฯ สามารถพิมพ์หนังสืออนุญาตได้ด้วยตนเองซึ่งข้อมูลจะถูกเชื่อมโยงไปยังกรมศุลกากรแบบอัตโนมัติ ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ทันทีเพียงใช้สมาร์ทโฟนสแกนคิวอาร์โค้ดบนหนังสืออนุญาต พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความสะดวก รวดเร็ว
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า กนอ.ได้ให้ความสำคัญกับการให้บริการและการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพเพื่อยกระดับนิคมอุตสาหกรรมให้เป็นฐานการผลิตที่มีความสมบูรณ์แบบ เหมาะสมกับสถานการณ์และทันกับการแข่งขันในตลาดโลกยิ่งขึ้น โดยได้นำนวัตกรรม เทคโนโลยี และระบบอัจฉริยะมาให้บริการด้านอนุมัติอนุญาตนำส่งสินค้าเข้า-ออกในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อเอื้อให้มีความรวดเร็ว ฉับไว พร้อมสร้างประสิทธิภาพในด้านผลลัพธ์และคุ้มค่ากับการลงทุนอย่างสูงสุด
ล่าสุด กนอ.ได้พัฒนาระบบบริการคิวอาร์โค้ด (QR CODE) การอนุญาตอนุมัติการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการผลิตและการส่งออกสินค้าโดยที่ไม่ต้องมีลายเซ็นของ กนอ. โดยผู้ประกอบการส่งคำขอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ e-pp โดยเจ้าหน้าที่ กนอ.พิจารณาอนุญาตในระบบ พร้อมทั้งข้อมูลการอนุญาตของผู้ประกอบการก็ยังคงถูกเชื่อมโยงไปยังกรมศุลกากรเช่นเดิม แต่ข้อมูลการอนุมัติทั้งหมดนั้นจะถูกเชื่อมโยงไปยังระบบของผู้ประกอบการและสามารถพิมพ์หนังสืออนุญาตแบบมีคิวอาร์โค้ด พร้อมนำหนังสืออนุญาตที่ได้รับไปทำพิธีการต่อไปที่กรมศุลกากรได้เอง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานจะใช้เพียงแค่สมาร์ทโฟนสแกนคิวอาร์โค้ดบนหนังสืออนุญาตที่ผู้ประกอบการแสดง พร้อมตรวจเช็คข้อมูลความถูกต้องในระบบฐานข้อมูลว่าข้อมูลตรงกันหรือไม่ ซึ่งระบบใหม่นี้ช่วยลดได้ทั้งขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน เพิ่มความรวดเร็วในการขนส่งสินค้า ช่วยในการเชื่อมโยงข้อมูลที่จำเป็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรมศุลกากร
นอกจากนี้ ในปี 61 กนอ.ยังมีแนวคิดในการยกระดับระบบการอนุมัติอนุญาตให้เป็นแบบไร้กระดาษ แต่ยังคงไว้ซึ่งการยื่นระบบ การพิจารณา และการเชื่อมโยงฐานข้อมูลที่เป็นแบบเดิม เพียงแค่ผู้ประกอบการจดจำเลขที่หนังสืออนุญาตแล้วไปดำเนินพิธีการนำเข้า-ส่งออกสินค้าหรือวัตถุดิบถัดไปที่กรมศุลกากร โดยเจ้าหน้าที่จากกรมศุลฯ จะตรวจสอบเลขที่หนังสืออนุญาตในระบบฯ ที่ผู้ประกอบการแสดง อย่างไรก็ตาม กนอ.คาดว่าบริการรูปแบบใหม่นี้จะช่วยลดขั้นตอน เพิ่มความรวดเร็วให้แก่ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียเวลา อย่างไรก็ตาม กนอ.อยู่ระหว่างการหารือร่วมกันกับกรมศุลกากร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2561
ปัจจุบันการลงทุนในเขตประกอบการเสรี (FreeTrade Zone) ทั้ง 11 แห่ง ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมบางปู นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี นิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี และนิคมอุตสาหกรรมอัญธานี และนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้
นอกจากนักลงทุนและผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆในด้านภาษีอากร เช่น การยกเว้นภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิตสำหรับเครื่องจักรอุปกรณ์ รวมทั้งกรรมสิทธิ์ในด้านพื้นที่ การโอนย้ายเงินตรา การขนส่ง และอื่นๆ อย่างมากมายแล้ว