(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.70/74 แนวโน้มอ่อนค่า มองกรอบ 32.60-32.80 ตลาดจับตาประชุมกนง.พรุ่งนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 19, 2017 15:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.70/74 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ ปิดตลาดที่ระดับ 32.61/63 บาท/ดอลลาร์

"มองทิศทางค่าเงินบาทน่าจะยังขยับขึ้นต่อ โดยคาดว่าจะมี Flow ต่อเนื่อง มองกรอบ 32.60-32.80 บาท/ ดอลลาร์" นักบริหารเงินระบุ

ปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้

THAI BAHT FIX 3M (18 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.68085% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (18 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.00517%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.8150 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.50/73 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 112.65 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1770 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 1.1780 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.5660 บาท/
  • ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจปี 2561 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นที่ระดับ 3-4% และคาดว่าสินเชื่อ
ของธนาคารจะขยายตัว 5-10% ตั้งเป้าสินเชื่อใหม่รายย่อยรวม 3.9-4.0 หมื่นล้านบาท หรือโต 10-20% อย่างไรก็ตาม สินเชื่อ
บุคคลและบัตรเครดิต 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเติบโตในอัตราชะลอลงเพราะหนี้ครัวเรือนยังอยู่ระดับสูง และธนาคารแห่งประเทศ
ไทย (ธปท.) ออกมาตรการจำกัดการขอสินเชื่อของผู้มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท/เดือน
  • ที่ประชุมคณะกรรมการบีโอไอ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบให้ขยายเวลา
มาตรการเพิ่มขีดความสามารถของเอสเอ็มอี ออกไปอีก 2 ปี จนถึงวันที่ 30 ธ.ค. 62 จากเดิมจะสิ้นสุดในปี 60 นี้ รวมทั้งขยาย
ขอบข่ายประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมรวมกว่า 100 ประเภท จากเดิมกำหนดไว้ 40 กิจการ รวมทั้งให้สิทธิลดภาษีเงินได้นิติบุคคล
อีกเท่าตัวเป็น 200% จากเดิมที่ลดให้อยู่แล้ว 100% คาดว่าจะทำให้เอสเอ็มอีที่มีเงินลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท เข้ามาขอรับการส่ง
เสริมตามมาตรการเพิ่มขึ้นอีก 30-40%
  • สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน(FETCO Invester Confidence Index) ประจำ
เดือน ธ.ค.60 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงเล็กน้อยแต่ยังคงอยู่ในภาวะร้อนแรงจากระดับร้อน
แรงอย่างมาก โดยปัจจัยหนุนหลักมาจากความเชื่อมั่นจากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งตัวเลข
การส่งออกและผลผลิตมวลรวมในประเทศ(GDP) และคาดการณ์ว่า นโยบายธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อย
เป็นค่อยไป และมีความคืบหน้านโยบายปฏิรูปภาษีที่ผ่านวุฒิสภาสหรัฐฯ
  • พาณิชย์ประเมินสหรัฐ ปรับไทยหลุดบัญชีดำทรัพย์สินทางปัญญา จาก PWL เป็น WL สร้างความมั่นใจต่างชาติ เร่งลง
ทุนตามคำขอส่งเสริมลงทุน 1.16 แสนล้านใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ตั้งเป้าไม่เกิน 10 ปี ไทยหลุดจากดับเบิลยูแอล
  • บลจ.ธนชาตมองดัชนีหุ้นไทยปี 61 แตะ 1,900 จุด หลังทิศทาง ศก.ไทย-โลกสดใส หนุนกำไร บจ.โต 8% ด้าน
ภาวะหุ้นไทยขยับเพิ่มขึ้น 6 จุด
  • สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านดีดตัวขึ้น 5 จุด สู่ระดับ 74
ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2542
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) ขณะ
ที่นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิรูประบบภาษีของสหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และ
จากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้
  • นักลงทุนยังจับตาสภาคองเกรสสหรัฐซึ่งเตรียมอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้น เพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณใน
การใช้จ่ายจนถึงเดือนม.ค.2561 โดยสภาคองเกรสจำเป็นต้องอนุมัติงบประมาณดังกล่าวให้ทันเส้นตายภายในวันศุกร์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยง
การปิดหน่วยงานของรัฐ หรือชัตดาวน์

สภาคองเกรสสหรัฐมีกำหนดลงมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายอย่างเร็วที่สุดภายในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ก่อน ที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามรับรองเป็นกฎหมายก่อนวันคริสต์มาส โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมุ่งลดภาษีเงินได้ นิติบุคคลลงเหลือ 21% จากระดับ 35% ในปัจจุบัน

  • นักลงทุนจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่เตรียมเปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ประจำไตรมาส
3/2560 ในวันพฤหัสบดีนี้ ส่วนการประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งได้เปิดเผยไปเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุ
ว่า GDP ขยายตัวที่ระดับ 3.3% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 3.0%
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.
ย., ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งสุดท้าย), ดัชนี
กิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนพ.ย.จากเฟดชิคาโก, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, จำนวนผู้ขอรับ
สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.
ย., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ