โดยในเดือนพ.ย. พบว่า อุปสงค์ภายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากการเพิ่มขึ้นของดัชนียอดคำสั่งซื้อและยอดขายในประเทศ โดยมีมาตรการช็อปช่วยชาติ ระหว่างวันที่ 11 พ.ย. - 3 ธ.ค.60 และการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นแรงกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริโภค รวมทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการภาครัฐ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการมีการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่
สำหรับดัชนีเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 102.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 103.3 ในเดือนต.ค. สาเหตุจากการที่ผู้ประกอบการมีความกังวลต่อระดับราคาสินค้าเกษตรที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่กระทบต่อภาคการส่งออก และนโยบายการค้าระหว่างประเทศของประเทศคู่ค้าสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ค่าดัชนีฯ ยังมีค่าเกิน 100 สะท้อนว่าผู้ประกอบการยังมีความเชื่อมั่นในอนาคตอยู่ในระดับที่ดี
สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือน พ.ย.คือ ต้องการให้ภาครัฐร่วมกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมแรงงาน เพื่อยกระดับผลิตภาพแรงงานอย่างบูรณาการและตรงตามความต้องการของตลาด ควรสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม การลงทุนวิจัยและพัฒนาให้ผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในการดำเนินธุรกิจผ่าน E-Commerce เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้ามากขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน
ประธาน ส.อ.ท. คาดดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในปี 61 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความชัดเจนมากขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในและต่างประเทศ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีความเข้มแข็ง ขณะที่เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปก็ฟื้นตัว ปัญหา Brexit ปัญหาเศรษฐกิจของกรีซและสเปนเริ่มคลี่คลาย น่าจะส่งผลให้ความต้องการสินค้าไทยเพิ่มขึ้น
"ความเชื่อมั่นฯ น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น" นายเจน กล่าว
พร้อมระบุว่า สำหรับภาวะเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งการท่องเที่ยว การลงทุนภาครัฐ แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวล คือเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากบาทแข็งค่ามากเป็นอันดับ 2 รองจากเกาหลีใต้ ซึ่งหวังว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ ส่วนปัญหาการเมืองทั้งภายในและต่างประเทศนั้น ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ