SCB EIC คาดปี 61 ส่งออกโต 4.2% ได้ปัจจัยหนุนด้านปริมาณเป็นหลักหลังศก.ประเทศคู่ค้าเติบโตดี, นำเข้าโต 7.2%

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 21, 2017 15:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่าการส่งออกของไทยในปี 2561 จะขยายตัวที่ 4.2%โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยด้านปริมาณเป็นหลัก เนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าหลักทั้งที่มีแนวโน้มเติบโตดีจะส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมหลักจากไทยให้เติบโตได้ต่อ นอกจากนี้ อุปสงค์จากภาคครัวเรือนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักและกลุ่มอาเซียนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีนที่มีนโยบายกระจายรายได้ ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยขยายตัวได้สูงต่อเนื่องจากปี 2560

อย่างไรก็ดี ภาคการส่งออกในระยะต่อไปอาจถูกกระทบจากราคาน้ำมันที่จะไม่ได้มีอัตราการเติบโตที่สูงมากนัก ทำให้สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 17% ของการส่งออกทั้งหมด มีแนวโน้มเติบโตชะลอลง ในขณะเดียวกันสินค้าโภคภัณฑ์อาจถูกกดดันจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภทที่มีแนวโน้มหดตัว และค่าเงินบาทที่แข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งในภูมิภาค ซึ่งอาจกระทบความสามารถในการแข่งขันทางด้านราคาของผู้ส่งออก

ทั้งนี้ การส่งออกไทยในปี 2561 ที่อาจเติบโตชะลอลงจากปี 2560 สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของภาคส่งออกในเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ในปี 2561 ที่คาดว่าจะขยายตัวราว 5.1% ชะลอลงจากปี 2560 ที่เติบโตราว 7.1% จากผลสำรวจการคาดการณ์ของ Asia Pacific Consensus ณ เดือน ธ.ค.60

สำหรับการนำเข้าทั้งปี 2561 นั้น SCB EIC คาดว่าจะขยายตัวที่ 7.2% โดยเติบโตตามความต้องการสินค้าวัตถุดิบและสินค้าทุน ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวตามการลงทุนในประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงอาจถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่จะไม่ได้มีอัตราการเติบโตที่สูงมากนักเมื่อเทียบกับปี 2560

ส่วนมูลค่าการส่งออกของปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวที่ 10% และการนำเข้า ขยายตัวที่ 14% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 8.5% และ 13.0% ตามลำดับ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสเติบโตได้ถึง 4% ในปีนี้จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.8%

ทั้งนี้ ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออกของไทยเดือนพ.ย.60 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ที่ 13.4% นำโดยการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ที่เติบโต 16% และ 41% ตามลำดับ ด้านการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักยังคงเติบโตตามเศรษฐกิจโลก เช่น คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ และรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ 23% และ 13% ตามลำดับ

ขณะเดียวกันสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ขยายตัวได้กว่า 50% จากการส่งออกไปยังแคเมอรูน แอฟริกาใต้ เบนิน และบังคลาเทศที่เริ่มมีการสั่งซื้อข้าวจากไทยหลังจากหยุดสั่งซื้อมากว่า 5 ปี ทั้งนี้ เมื่อหักการส่งออกทองคำที่หดตัวกว่า 73% การส่งออกไม่รวมทองคำในเดือน พ.ย.ขยายตัวได้สูงถึง 15.5% สะท้อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของการส่งออกสินค้า สำหรับมูลค่าการส่งออกรวมใน 11 เดือนแรกของปีเติบโตอยู่ที่ 10.0%

ส่วนมูลค่าการนำเข้าเติบโตต่อเนื่องที่ 13.7% จากการนำเข้าสินค้าในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิงที่เติบโตกว่า 21% ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ด้านการนำเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยังขยายตัว 22% ตามแนวโน้มการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในสินค้ากลุ่มดังกล่าว นอกจากนี้ สินค้าทุน (ไม่รวมเครื่องบินและเรือ) เพิ่มขึ้นกว่า 7% สะท้อนแนวโน้มการลงทุนในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว ทั้งนี้ การนำเข้ารวมใน 11 เดือนแรกของปีเติบโต 14.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ