ธนารักษ์ คาดลงนามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างศูนย์ราชการฯ โซน C ภายในปี 61 ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 64

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 22, 2017 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ โซน C ว่า กระบวนการทำงานทุกอย่างเป็นไปตามกรอบที่ได้รายงานให้คณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ (กศร.) โดยเบื้องต้นประเมินว่าจะสามารถเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบได้ภายในต้นปี 2561 ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ กำลังพิจารณารายละเอียดวงเงินลงทุน จำนวน 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 2.3 หมื่นล้านบาท และค่าบริหารจัดการอื่น ๆ อีก ประมาณ 7 พันล้านบาท และหลังจาก ครม.พิจารณาเห็นชอบแล้วจะมาพิจารณาเรื่องการขอผูกพันงบประมาณ ก่อนส่งกลับมาให้กรมฯ พิจารณาอีกครั้ง และเสนอให้ ครม.พิจารณาในขั้นตอนสุดท้าย

ทั้งนี้ ตามเป้าหมายของรัฐบาลจะต้องลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างได้ภายในปี 2561 โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มเปิดหน้าดินได้ในครึ่งแรกของปีหน้า และจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี คาดว่าแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้ส่วนราชการที่แสดงความจำนงใช้พื้นที่เข้ามาใช้พื้นที่ได้ภายในปี 2564

"เงินลงทุนจะมาจากการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (ซีเคียวริไทเซชั่น) เหมือนโครงการแรกที่เคยใช้กับการก่อสร้างศูนย์ราชการโครงการที่ผ่านๆ มา ที่ผ่านมาก็เคยมีการทำเรื่องเพื่อขอก่อหนี้ผูกพันกับงบประมาณไว้แล้ว เรื่องเงินลงทุนไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด แต่คงต้องกลับมาดูในเรื่องต้นทุนของแต่ละวิธีการระดมทุนว่าแบบไหนเหมาะสมมากที่สุด" นายพชร กล่าว

ด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด เปิดเผยว่า พื้นที่ใช้สอยที่จะเปิดให้ส่วนราชการเช่า มีจำนวน 3.5 แสนตารางเมตร จากพื้นที่ทั้งหมด 7 แสนตารางเมตร โดยขณะนี้มีส่วนราชการที่แสดงเจตจำนงค์เพื่อขอใช้พื้นที่ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ โซน C แล้วประมาณ 10-11 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.), กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และศาลปกครองสูงสุด เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานของ ธพส. ในปีนี้ออกมาน่าพอใจ โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากการลงนามร่วมทุนในโครงการให้สิทธิเอกชนร่วมลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารศูนย์ประชุมและโรงแรม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 วงเงิน 1.1 พันล้านบาท แต่หากตัดรายได้ในส่วนนี้ออก ธพส.ก็ยังมีกำไรที่ 200 ล้านบาท โดยในปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ ธพส. มีกำไรสะสมอยู่ที่ 5 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ