นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ว่า ในภาพรวมคาดว่าประชาชนทั่วประเทศจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับในช่วงปีใหม่นี้อยู่ที่ประมาณ 132,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.1% ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการสำรวจมาในรอบ 13 ปี โดยแบ่งเป็น การใช้จ่ายของประชาชนในกรุงเทพฯ 64,292 ล้านบาท และการใช้จ่ายของประชาชนในต่างจังหวัด 67,757 ล้านบาท แต่ทั้งนี้หากรวมการใช้จ่ายที่ได้เกิดขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น มาตรการช็อปช่วยชาติ, โครงการ "รวมใจ เพิ่มสุข ช็อปสนุก ลดรับปีใหม่" และมาตรการอื่นๆ เช่น เที่ยวช่วยชาติ ก็คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้รวมทั้งสิ้น 159,632 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.4%
ทั้งนี้ หากแยกเป็นพฤติกรรมการใช้จ่ายสำหรับตัวเองจะพบว่า 3 อันดับแรกที่ประชาชนจะนำเงินไปใช้จ่ายมากสุด คือ การทำบุญ รองลงมา คือ ท่องเที่ยว และจัดเลี้ยงสังสรรค์ ส่วนการใช้จ่ายเพื่อซื้อของขวัญให้ผู้อื่นนั้น พบว่าของขวัญยอดนิยม 3 อันดับแรก คือ เงินสด/เช็คของขวัญ รองลงมา คือ การรับประทานอาหาร และกระเช้าของขวัญ
ส่วนพฤติกรรมการท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 83.5% ยังเลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ขณะที่อีก 16.5% เป็นการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ทั้งนี้ หากเป็นการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ จะเป็นการท่องเที่ยวประเทศในแถบเอเชียสูงสุด รองลงมา คือ ยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ จะเป็นการท่องเที่ยวในจังหวัดภาคกลางสูงสุด รองลงมาคือ จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจังหวัดในภาคเหนือ โดยสถานที่ประชาชนเลือกจะเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศมากสุด คือ ภูเขา รองลงมา คือ ทะเล, น้ำตก, โบราณสถาน เป็นต้น
สำหรับการใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยว หากเป็นการท่องเที่ยวในประเทศจะเฉลี่ยคนละ 13,960 บาท แต่หากเป็นการท่องเที่ยวต่างประเทศจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 60,135 บาท โดยแหล่งที่มาของเงินสำหรับการใช้จ่ายส่วนใหญ่จะมาจากเงินเดือน/รายได้ปกติ รองลงมา คือ โบนัส/รายได้พิเศษ และเงินออม ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ 38% ระบุว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมีผลกระทบต่อการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงปีใหม่ให้เพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง
จากการสำรวจยังพบว่าสิ่งที่ประชาชนแสดงความเป็นห่วงมากที่สุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 สูงสุด 5 อันดับแรก คือ 1.อุบัติเหตุบนท้องถนน 2.บริการขนส่งสาธารณะไม่เพียงพอ 3.ปัญหาการจราจร 4.ปัญหาการก่อการร้าย และ 5.ความปลอดภัยของที่พักค้างแรม
ทั้งนี้ สำหรับนักการเมืองที่ประชาชนต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยมากที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รองลงมา คือ นายชวน หลีกภัย อันดับสาม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และอันดับสี่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่วนนักแสดงที่ประชาชนอยากให้ของขวัญมากที่สุด คือ ณเดชน์ คูกิมิยะ, ญาญ่า อุรัสยา ขณะที่นักร้องที่ประชาชนอยากให้ของขวัญมากที่สุด คือ ตูน บอดี้สแลม และดา เอ็นโดรฟิน
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัด 1.32 แสนล้านบาทนั้น ถือว่าเป็นเม็ดเงินที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับแต่มีการสำรวจมาในรอบ 13 ปี ซึ่งแม้ว่าอัตราการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจะไม่สูงมากนักเพียงแค่ 2.1% เนื่องจากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัว ทำให้ได้เริ่มเห็นการซื้อสินค้าคงทน และสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าการจับจ่ายใช้สอยจะเริ่มกลับมาเป็นปกติในช่วงปลายไตรมาส 2 ของปี 61
"เรามองว่าปีนี้บรรยากาศชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้น ทำให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ 4% มีความเป็นไปได้แน่นอน เพราะมีการซื้อสินค้าในจำนวนชิ้นที่เพิ่มขึ้น และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ทั้งสินค้าคงทน สินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งเชื่อว่าการใช้จ่ายและกำลังซื้อของประชาชนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในภายในปลายไตรมาส 2 ปีหน้า" นายธนวรรธน์ระบุ