นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อย ในโครงการนำร่องเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อยในจังหวัดพิษณุโลก โดยระบุว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยหลุดพ้นจากความยากจนอย่างยั่งยืน
จากนั้นได้มอบใบอนุญาตประกอบกิจการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์แก่ผู้ประกอบการในจังหวัดพิษณุโลกและใกล้เคียง จำนวน 4 ราย และมอบสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินให้แก่เกษตรกรลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 10 ราย และตัวแทนลูกค้าธนาคารออมสิน จำนวน 10 ราย โดยมีผู้บริหารของกระทรวงการคลัง ผู้บริหาร ธ.ก.ส. และผู้บริหารธนาคารออมสินร่วมเป็นสักขีพยาน
ด้านนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนโยบาย "การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์" เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งจากข้อมูลการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 พบว่ามีเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนจำนวน 3,959,030 ราย และมีหนี้นอกระบบ 448,496 ราย มูลหนี้เฉลี่ยต่อรายจำนวน 59,520 บาท
โดยในจังหวัดพิษณุโลก มีเกษตรกรที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ 65,774 ราย เป็นเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้นอกระบบ 4,982 ราย มูลหนี้ 358 ล้านบาท เฉลี่ยหนี้ต่อราย 71,858 บาท ซึ่ง ธ.ก.ส.ได้เข้าไปช่วยเหลือลดภาระหนี้สินให้กับเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกแล้ว 2,045 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 855.02 ล้านบาท ด้วยการให้สินเชื่อแก้ไขหนี้นอกระบบ สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน และสินเชื่ออาชีพเสริมเพิ่มรายได้
นอกจากจะทำให้หนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบแล้ว ธ.ก.ส.ยังมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการดำเนินชีวิตของเกษตรกร ด้วยการให้ความรู้ การทำบัญชีครัวเรือน การประหยัดอดออม การสร้างรายได้จากอาชีพเสริม เช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงไก่ดำ การผลิตผักสลัด และการเพาะเห็ดที่นำมาจัดแสดงในงานนี้ รวมทั้งการสนับสนุนสินเชื่อ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินยามจำเป็น ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และป้องกันไม่ให้เกษตรกรกลับไปก่อหนี้นอกระบบอีก