นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ ได้ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรอง และต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2560 โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2561
สำหรับมาตรการใหม่นี้ ได้ปรับปรุงระบบการนำเข้ามันสำปะหลังจากเดิมใน 2 ประเด็นหลัก คือ (1) กำหนดให้ผู้นำเข้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังต้องแจ้งข้อมูลการนำเข้าต่อกรมการค้าต่างประเทศ ก่อนนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร ส่งผลให้สามารถติดตามมันสำปะหลังนำเข้าว่านำไปใช้ในอุตสาหกรรมใดบ้าง และจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพราคามันสำปะหลังในประเทศหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ กรมฯ ได้นำระบบสารสนเทศเข้ามาใช้ในการดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ โดยที่ผู้ประกอบการสามารถแจ้งการนำเข้ามันสำปะหลังผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย ไม่ต้องเดินทางมาแจ้งที่ส่วนกลาง
(2) ผู้นำเข้ามันสำปะหลัง ต้องพร้อมให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปในสถานที่เก็บ หรือยานพาหนะที่บรรทุกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเพื่อตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของสินค้า เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าที่ด้อยคุณภาพเข้าสู่ประเทศและส่งผลกระทบกับระดับราคา
อนึ่ง สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้คาดการณ์สถานการณ์มันสำปะหลังปี 2560/61 ว่าจะมีปริมาณผลผลิต ประมาณ 28.57 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อน 7.69% เนื้อที่เก็บเกี่ยว 8.07 ล้านไร่ ลดลงจากปีก่อน 9.42% เนื่องจากเกษตรกรในหลายพื้นที่ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เช่น อ้อย และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คาดว่าผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือน ม.ค. – เม.ย. 61 ปริมาณรวมประมาณ 16.39 ล้านตัน คิดเป็น 57.37% ของผลผลิตทั้งหมด ทั้งนี้ สถานการณ์ปัจจุบันมีความต้องการมากกว่าปริมาณผลผลิตที่มีในตลาด ทำให้ราคามันสำปะหลังเพิ่มสูงขึ้นทั้งระบบ โดยปัจจุบันราคามันสำปะหลังทั้งระบบอยู่ในเกณฑ์ดี ราคา ณ วันที่ 25 ธ.ค. 60 หัวมันสดเชื้อแป้ง 25% กก. ละ 2.25 บาท มันเส้น F.O.B. ตันละ 205 เหรียญสหรัฐฯ แป้งมัน F.O.B ตันละ 430 เหรียญสหรัฐฯ และแนวโน้มราคาในฤดูกาลนี้น่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะมีมาตรการของรัฐ สนับสนุนทั้งภาคการผลิตและการค้า
นายกีรติ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศ ได้เดินสายไปพบหารือกับฝ่ายความมั่นคง โดยได้เข้าพบแม่ทัพภาคที่ 1 แม่ทัพภาคที่ 2 รวมถึงได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดนที่มีการนำเข้ามันสำปะหลังปริมาณมาก ได้แก่ สระแก้ว จันทบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพื่อให้การกำกับดูแลการนำเข้ามันสำปะหลังเป็นไปอย่างเข้มงวดตามที่กฎหมายกำหนด ป้องกันการลักลอบนำเข้าและการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าปริมาณที่ระบุไว้ในใบขนสินค้าขาเข้า พร้อมกันนี้ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจให้ผู้ประกอบการนำเข้า ทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการนำเข้าใหม่นี้ และขอความร่วมมือให้ช่วยทำความเข้าใจกับเกษตรกร/ผู้ประกอบการเพื่อนบ้านว่า ประเทศไทยไม่ได้ห้ามการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านและไม่มีการกำหนดโควตาใดๆ ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ดี การนำเข้าต้องเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าที่ด้อยคุณภาพเข้าสู่ประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับเสถียรภาพราคาภายในประเทศในที่สุด นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กรมฯ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่กำกับดูแลมาตรฐานสินค้าของประเทศกัมพูชา (CAMCONTROL) จัดกิจกรรมยกระดับคุณภาพมาตรฐานมันเส้นที่นำเข้า ณ จังหวัดบันเตียเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งเป็นการแก้ปัญหามันเส้นด้อยคุณภาพเข้าสู่ประเทศได้อย่างตรงจุดอีกด้วย