พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ในปี 61 รัฐบาลจะวางโรดแมพแก้ไขปัญหาความยากจน เน้นการใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และหวังลดคนจนด้วยการเพิ่มค่าครองชีพให้มากขึ้น โดยจะมุ่งให้ความช่วยเหลือผู้ที่ลงทะเบียนผู้ที่มีรายได้น้อยเป็นอันดับแรก และต่อไปจะให้ความช่วยเหลือในรูปแบบโมเดลจังหวัด ซึ่งสิ่งสำคัญต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ในการรวมกลุ่มเพื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และต้องรู้จักปรับเปลี่ยนตัวเอง และเพิ่มมาตรฐานด้านการศึกษาให้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความจนของประชาชนมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะเกษตรกรเท่านั้น แต่ต้องแก้ปัญหาให้กับทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ต่ำกว่าปีละ 30,000 บาท แต่รัฐบาลไม่ได้เลือกวิธีการใช้เงินอุดหนุน เพราะปัจจุบันการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างรวดเร็ว ค่าใช้จ่าย และสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีมีมูลค่าสูงขึ้น แต่รายได้กลับไม่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในการปรับเปลี่ยนตัวเองและการรวมกลุ่ม เช่น การรวมกลุ่มด้านเกษตรเพื่อให้มีรายได้ที่สูงขึ้น
สำหรับการจับรางวัลรูดลุ้นเงินล้านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรผู้มีรายได้น้อยนั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ถือเป็นมาตรการสร้างแรงจูงใจเท่านั้น แต่ในระยะต่อไปจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น เช่น ต้องฝึกอบรมเพิ่มความรู้ ทักษะ ในการประกอบอาชีพ
ส่วนกรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี เสนอให้รัฐบาลเชิญผู้เชี่ยวชาญมาแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำในช่วงการทำงาน 1 ปีสุดท้ายนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พร้อมรับฟังข้อเสนอผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรตามที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เสนอ แต่มองว่าช่วงที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เป็นรองนายกรัฐมนตรียังแก้ปัญหาไม่ได้ จึงไม่อยากให้เรื่องนี้ถูกนำไปขยายเป็นเรื่องการเมือง เพราะรัฐบาลก็ตั้งใจแก้ปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว
"ผมคิดว่าท่านทราบดีนะ เพราะท่านเคยเป็นรัฐบาลกับผมมาก่อน สมัยท่านอยู่ท่านทำไม่ได้ แต่วันนี้ท่านเสนอเอาผู้เชี่ยวชาญ ก็กรุณาแนะนำมา ใคร จากไหน เพราะทุกวันนี้ก็รวบรวมทุกความคิดเห็น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญต้องเข้าบริบทของประเทศไทย การเกษตรของเรามาอย่างไร ซึ่งทุกคนทราบดีหมด แต่วันนี้กลายเป็นประเด็นการเมืองไปซะหมด เรากำลังแก้ทุกอัน มันไม่ได้แก้ง่าย ถ้าแก้ง่ายแก้ไปนานแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว