นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 61 เงินบาทแข็งค่าขึ้นในทิศทางเดียวกับเงินสกุลของภูมิภาค แต่เคลื่อนไหวค่อนข้างรวดเร็วเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยการแข็งค่าของเงินบาทเป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ประกอบกับมีเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรทั้งภูมิภาค
ทั้งนี้ ธปท.จะติดตามสถานการณ์ในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด และหากค่าเงินเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินควร จนอาจกระทบต่อการปรับตัวของภาคเอกชน ธปท. พร้อมทำหน้าที่ธนาคารกลางในการเข้าดูแล
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนควรพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งมีหลากหลายทางเลือก ตั้งแต่การซื้อประกันความเสี่ยง การใช้เงินสกุลท้องถิ่นที่เคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินบาทแทนเงินดอลลาร์ในการชำระค่าสินค้า หรือนำรายได้เงินตราต่างประเทศฝากเข้าบัญชีเงินตราต่างประเทศไว้ก่อนหากมีภาระชำระเงินตราต่างประเทศในอนาคต เป็นต้น