นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการของมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการแต่ละโครงการ
นอกจากนี้เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (คนส.) คณะอนุกรรมการติดตามการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (คอต.) คณะอนุกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประจำจังหวัด (คอจ.) หรือ ทีมหมอประชารัฐสุขใจ รวมทั้งเห็นชอบในหลักการของการแต่งตั้งคณะกรรมการทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประจำอำเภอ (ทีมปรจ.)
อีกทั้งเห็นชอบในหลักการของมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้มีบัตรสวัสิดการแห่งรัฐ โดยเมื่อ ครม.ให้ความเห็นชอบแล้ว ทางกรมสรรพากรจะเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ รวมทั้งประสานธนาคารกรุงไทย (KTB) เพื่อดำเนินการการรับชำระค่าจ้างผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไป
นายณัฐพร กล่าวอีกว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบให้ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินมาตรการพัฒนาผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวม 6 มาตรการ 18 โครงการ และให้โครงการดังกล่าวเป็นโครงการธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account:PSA)
ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติงบประมาณรวมทั้งสิ้น 35,679 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณสำหรับโครงการเพื่อรองรับมาตรการการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ วงเงินไม่เกิน 6,774 ล้านบาท และงบประมาณสำหรับธนาคารออมสิน และธ.ก.ส. ในการดำเนินงานเป็นวงเงินไม่เกิน 12,033 ล้านบาท
และเป็นงบประมาณสำหรับค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านอื่นๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด เป็นวงเงินไม่เกิน 13,872 ล้านบาท และที่เหลือเป็นงบประมาณค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ
นายณัฐพร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงคลังจะต้องส่งข้อมูลผู้ที่มีบัตรสวัสดิการให้กับคณะกรรมการประจำจังหวัดภายในเดือนม.ค. 61 จากนั้นผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ประสงค์จะมีการพัฒนาตัวเองจะต้องมาพบกับเจ้าหน้าที่ ภายในก.พ.61 แต่หากไม่มาทางเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ไปพบเป็นรายตัวในเดือนเม.ย.
มาตรการนี้จะครอบคลุมผู้มีรายได้น้อยราว 4.7 ล้านคน โดยจะมีมาตรการจูงใจสำหรับผู้ถือบัตรฯที่มาเข้าโครงการในเฟส 2 กรณีที่รายได้ไม่ถึง 30,000 บาท/ปี จะได้วงเงินช่วยเหลือเพิ่มอีก 200 บาท/เดือน ส่วนในกรณีที่มีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี จะได้วงเงินช่วยเหลือเพิ่ม 100 บาท/เดือน "มาตรการการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฟส 2 เน้นการพัฒนาตนเอง การจะได้รับความช่วยเหลือ จะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไข"นายณัฐพร กล่าว