นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า ที่ประชุม กกร.มีมติให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาปัญหาและผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า โดยจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้าเพื่อหาข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลภายใน 7 วัน ซึ่งจะมีมาตรการรอบด้านทุกหน่วยงาน เช่น เสนอให้รัฐบาลเร่งชำระหนี้เงินกู้ต่างประเทศ
ปัจจุบันเงินบาทแข็งค่ามา 12% ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่มาเลเซียแข็งค่า 7%, เวียดนามอ่อนค่า 1%, ฟิลิปปินส์อ่อนค่า 7%
"ถ้าประเทศเพื่อนบ้านเงินอ่อนค่า จะยิ่งส่งผลให้เกิดความเสียเปรียบในการแข่งขัน" นายกลินท์ กล่าว
สำหรับผลกระทบต่อผู้ประกอบการนั้นน่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประเมินว่ากระทบต่อผู้ประกอบการกลุ่มใด มากหรือน้อยเพียงใด
ด้านนายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หากสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่าจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่หากเกิดจากการลงทุนระยะสั้นก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงที่จะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนเกิดความผันผวน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าข้อเสนอแนะดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อกติกาสากล