นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและให้นโยบาย กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ว่า ปัจจุบัน ทย. มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน ส่วนรายได้จากกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับการบิน มีประมาณ 10% ซึ่งเห็นว่ายังน้อยเกินไป และมีโอกาสที่จะเพิ่มรายได้ในส่วนนี้ ซึ่งหากปรับปรุงการใช้พื้นที่ตามแนวคิด โมดูลาร์ จะมีพื้นที่ของสนามบินที่สามารถนำมาสร้างรายได้สนับสนุนกิจการด้านการบินอีกแน่นอน
“เมื่อระบบรถไฟทางคู่ และมอเตอร์เวย์แล้วเสร็จ ถึงจุดๆหนึ่ง จะกลายเป็นคู่แข่งกับการบินโดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำ และเชื่อว่าคนรุ่นใหม่จะให้ความสนใจกับระบบรางมาก ในการบริหารสนามบินจะต้องปรับตัวเพื่อรองรับด้วย โดยเฉพาะภาพลักษณ์ของสนามบิน จะต้องมีความสดใส และใช้งานสะดวก"นายไพรินทร์ กล่าว
พร้อมได้เสนอแนะให้ ทย.กำหนด มาตรฐานการให้บริการ หรือ Service Level Agreement เพื่อให้ทุกสนามบินมีมาตรฐานเดียวกัน ให้ออกแบบอาคาร โดยใช้แนวคิดแบบโมดูลาร์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความคุ้นเคย ซึ่งจะมีข้อดีหากอนาคตจะมีการขยายอาคาร จะสามารถดำเนินการได้ในรูปแบบเดียวกันทุกแห่ง
ทั้งนี้ กรมท่าอากาศยานบริหารสนามบินภูมิภาค 28 แห่งและกำลังก่อสร้างอีก 1 แห่ง ขณะที่ภูมิศาสตร์ของไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค นอกจากนี้ไทยมีแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลก เมื่อปี 60 มีนักท่องเที่ยว จำนวน 35 ล้านคนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกระจายทั่วทั่วทุกภาค ดังนั้นสนามบินของทย. จึงมีความสำคัญ นอกจากนี้ สายการบินต้นทุนต่ำ ซึ่งใช้บริการสนามบินของทย.เป็นหลัก ได้รับความนิยมสูง มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เป็น 60 กว่าล้านคน ซึ่งเชื่อว่าจะใช้บริการสนามบินของทย.มากขึ้น ดังนั้นนโยบายสำคัญคือ ทย.จะต้องรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน และสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบิน (HUB) ในภูมิภาคต่อไป
ด้านนายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า กรมท่าอากาศยานเตรียมเสนอแผนเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) พัฒนาสนามบินจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา,เพชรบูรณ์,ชุมพร และลำปาง ต่อกระทรวงคมนาคม หากได้รับอนุมัติ จะเข้าสู่ขั้นตอนพ.ร.บ.PPP ในปี 2561 คาดว่าจะเปิดประมูลได้ปลายปี 61
นอกจากนี้ กรมฯได้ทำการศึกษา ในการหารายได้เพิ่มจากทรัพย์สิน และอาคาร รวมถึงข้อระเบียบ อัตราค่าเช่าต่างๆ โดยแยกพื้นที่ จากส่วนที่เหลือจากกิจกรรมด้านการบิน เพื่อมาดำเนินการ เช่น ระนอง เป็นต้น และพร้อมรับนโยบายในการพัฒนาออกแบบ อาคารแบบโมดูลาร์เพื่อความสะดวกและง่ายในการใช้บริการของผู้โดยสาร ซึ่ง ขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างดำเนินการปรับภาพลักษณ์ สนามบินให้เกิดความทันสมัยและอบอุ่น ซึ่งก่อนสงกรานต์ จะแล้วเสร็จและพร้อมให้บริการ Homey Airport สนามบินอบอุ่นเหมือนบ้าน ซึ่งได้ดำเนินการ เร่งด่วน เช่นทาสี ปรับปรุงห้องน้ำ เพื่อเป็นจุดแข็งในการให้บริการของสนามบินภายใต้กรมท่าอากาศยาน
อย่างไรก็ตามในปี 61 กรมฯได้รับงบประมาณ 800 ล้านบาทในการดำเนินการจัดซื้อเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิด แบบ Inline Screening เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยต่อกิจการการบินเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) รวม 8 สนามบิน เฉลี่ยแห่งละประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนสนามบินที่เหลือจะของบประมาณในปี 62 ดำเนินการอีกประมาณ 1,200 ล้านบาท