ปลัดท่องเที่ยวฯ จีบนทท.จีนกระจายเที่ยวเมืองรอง ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนเป็น 15 ล้านคนภายในปี 63

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 11, 2018 15:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงการเข้าพบหารือนายหวัง เสี่ยวเฟิง รองประธานสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน (China National Tourism Administration หรือ CNTA) ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สรุปผลการหารือร่วมกันใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) การกระจายนักท่องเที่ยวสู่เมืองรอง 2) การอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว 3) การดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ตั้งเป้าระยะ 3 ปี เพิ่มนักท่องเที่ยวจีนเป็น 15 ล้านคน ภายในปี ค.ศ.2020 (พ.ศ. 2563) พร้อมเสนอ 6 เมืองรอง ที่มีศักยภาพและมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี และ นครศรีธรรมราช ซึ่งฝ่ายจีนยินดีให้ความร่วมมือส่งนักท่องเที่ยวจีนสู่เมืองรองของไทยอย่างเต็มที่ หากมีระบบคมนาคมขนส่งที่ปลอดภัย บริการได้มาตรฐานและโครงสร้างพื้นฐานมีความพร้อม

นอกจากนี้ พร้อมอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว เนื่องจากการเพิ่มจำนวนของนักท่องเที่ยวยังมีข้อจำกัดซึ่งเป็นคอขวดอยู่หลายจุด โดยเฉพาะในกระบวนการเข้าประเทศ ซึ่งภายหลังจากการหารือกับ นายพิริยะ เข็มพล เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน พบว่าปัจจุบัน สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั้ง 10 แห่ง ได้ตรวจลงตราให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนเฉลี่ยวันละ 35,000 ราย ซึ่งเฉพาะสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง มีจำนวนผู้ตรวจลงตรามากที่สุด เฉลี่ยวันละ 9,000 – 12,000 ราย และสามารถรองรับได้ถึงวันละ 20,000 ราย ใช้เวลาพิจารณา 3 วันทำการ โดยไม่มีการจำกัดโควต้า หรือใช้เวลาพิจารณาเกินกว่า 3 วัน ดังที่บริษัททัวร์บางรายพยามให้ข่าวเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มเติม ในขณะที่ การขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) เริ่มใช้เวลานานขึ้น แม้ว่าจะมีการขึ้นค่าธรรมเนียมเป็น 2,000 บาท แต่ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เคาเตอร์ให้บริการมีจำนวนเท่าเดิม ส่งผลให้คิวขอรับการตรวจลงตราหนาแน่นและล่าช้า จึงเห็นว่า ควรมีการนำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยแบ่งเบาในขั้นตอนการกลั่นกรองและอนุมัติการเข้า - ออก ประเทศของนักท่องเที่ยว โดยเสนอแนวทางการใช้ระบบ Quick Response หรือ QR Code มาช่วยยกระดับการให้บริการและการบริหารจัดการ ตลอดจนการคัดกรองนักท่องเที่ยวจีนจากประเทศต้นทางอย่างครบวงจร ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาทัวร์ผิดกฎหมาย (ทัวร์ศูนย์เหรียญ) ได้เป็นอย่างดี รวมถึงการปรับปรุง ระเบียบขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดความคล่องตัวในกระบวนการตรวจลงตราซึ่งจะได้มีการศึกษาในรายละเอียด และแนวทางการดำเนินการต่อไป

ในส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ฝ่ายจีนพอใจที่ไทยได้มีมาตรการดูแล รักษาสิทธิ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นร่วมกันว่าจำเป็นต้องยกระดับขีดความสามารถในการสื่อสารการพัฒนาทักษะภาษาจีนให้กับตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้สามารถประสานงาน ดูแลนักท่องเที่ยวได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งฝ่ายจีนยินดีให้การสนับสนุนการฝึกอบรมภาษาจีนให้กับตำรวจท่องเที่ยวและบุคลากรด้านการท่องเที่ยวของไทย เพื่อให้สามารถดูแล รักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยพร้อมให้ตำรวจท่องเที่ยวของไทยเข้ารับการอบรมในเดือนมีนาคมนี้

นอกจากนี้ ยังเห็นพ้องกันว่าควรจัดให้มีระบบประกันภัยภาคบังคับให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวด้วยตนเอง (FIT) ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะรับไปดำเนินการต่อไป ในส่วนของความร่วมมือในการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย จะได้มีแนวทางการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ผ่านช่องทาง Hotline ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลของทัวร์ผิดกฎหมาย และเรื่องร้องเรียนระหว่างกรมการท่องเที่ยวของจีน และกรมการท่องเที่ยวของไทยอย่างต่อเนื่อง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเดินหน้าบูรณาการภาคส่วนต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าวให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ