นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวภายหลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถึงความคืบหน้าร่างพ.ร.บ.พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก คาดว่าจะเข้าสู่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วาระที่ 3 และออกเป็นกฏหมายได้ในเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งจะมีส่วนทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจว่าใน 5 โครงการสำคัญในพื้นที่พัฒนา EEC จะสามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ภายในปีนี้
สำหรับความคืบหน้าใน 5 โครงการสำคัญในพื้นที่พัฒนา EEC ประกอบด้วย 1. รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะมีเปิดให้เอกชนที่สนใจยื่นข้อเสนอตามร่าง TOR ในช่วงปลายเดือน ก.พ. จากนั้นจะคัดเลือกเอกชนให้แล้วเสร็จในเดือน ก.ค.และจะมีการเซ็นสัญญาในเดือน ก.ย. คาดว่าเปิดให้บริการได้ปี 66
2.สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก จะมีเปิดให้เอกชนที่สนใจยื่นข้อเสนอในช่วงเดือน ก.ค.คัดเลือกเอกชนให้แล้วเสร็จในเดือน พ.ย.และจะมีการเซ็นสัญญาในเดือน ธ.ค.คาดว่าเปิดทำการได้ปี 66
3.ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา จะมีเปิดให้เอกชนที่สนใจยื่นร่าง TOR ในช่วงเดือน มี.ค.คัดเลือกเอกชนให้แล้วเสร็จในเดือน พ.ค.และจะมีการเซ็นสัญญาในเดือน ก.ค.คาดว่าเปิดทำการได้ปี 64
4.ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะเปิดให้เอกชนที่สนใจยื่นข้อเสนอในช่วงเดือน มิ.ย.คัดเลือกเอกชนให้แล้วเสร็จในเดือน ก.ย.และจะมีการเซ็นสัญญาในเดือน พ.ย.คาดว่าเปิดทำการได้ปี 67
5.ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 จะมีเปิดให้เอกชนที่สนใจยื่นข้อเสนอในช่วงเดือน ส.ค.คัดเลือกเอกชนให้แล้วเสร็จในเดือน พ.ย. และจะมีการเซ็นสัญญาในเดือน ธ.ค.คาดว่าเปิดทำการได้ปี 68
ด้านนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ สกรศ. เปิดเผยว่า ใน 5 โครงการสำคัญดังกล่าวในพื้นที่พัฒนา EEC รวมวงเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 6 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ นายสมคิด มอบหมายให้ที่ประชุมพิจารณาปรับเป้าการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายในช่วง 5 ปีข้างหน้า จากเดิมอยู่ที่ 5 แสนล้านบาท ซึ่งมีโอกาสเห็นตัวเลขสูงกว่านี้ เนื่องจากเฉพาะในช่วงปี 60 มีคำขอส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายแล้ว 252,000 ล้านบาท เชื่อว่าหากเดินหน้าการลงทุนโครงการสำคัญๆ ใน EEC ได้เต็มที่จะส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีก 2%
พร้อมกันนี้ นายคณิศ กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม สำหรับการลงทุนในโครงการ EEC ว่า เตรียมจะพิจารณาจัดหาพื้นที่ใหม่อีก 18 แห่ง ในพื้นที่ 26,466 ไร่ เพื่อรองรับโครงการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น