นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ Doing Buisness ร่วมกับกระทรวงการคลังว่า จะต้องเร่งปฏิรูปกฎหมาย โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลให้เกิดความชัดเจนภายในไตรมาส 1/61 เพื่อให้การจัดอันดับการทำธุรกิจยากง่ายของธนาคารโลก (World Bank) ต่อประเทศไทยมีอันดับที่ดีขึ้นจากปีที่แล้วที่เพิ่มขึ้นกว่า 20 อันดับ
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเตรียมการในปีนี้เพื่อให้ทันต่อการเข้ามาประเมินรอบใหม่ของ World Bank ในช่วงเดือน มิ.ย. และประกาศจัดอันดับใหม่ในเดือน ต.ค.61 ทั้งการเตรียมการใน 10 ด้านที่ World Bank ตั้งข้อสังเกต และการลดอุปสรรคให้กับภาคธุรกิจ ขณะเดียวกันจะมีการทำแผนประชาสัมพันธ์เพื่อสื่อสารการรับรู้ เพราะการประเมินหลายด้านควรได้คะแนนที่ดีกว่านี้ แต่ภาคเอกชนยังไม่รับรู้ข้อมูลว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ทำให้ตอบสำรวจไม่ครบถ้วน
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กล่าวว่า นายสมคิดสั่งการให้จัดตั้งคณะกรรมการกฎหมายด้านดิจิทัล ร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลัง และภาคเอกชนในแก้ไขปรับปรุงกฎหมายบางเรื่องที่ยังเป็นอุปสรรค เพื่อให้ตรงความต้องการของทาง World Bank โดยปีนี้มีเป้าหมายที่จะขยับอันดับการทำธุรกิจคล่องให้ติด 20 ประเทศ จากปัจจุบันไทยอยู่ในอันดับที่ 24 ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะประเทศใน 20 อันดับแรกส่วนใหญ่มีความพร้อมมาก แต่ไทยก็จะพยายามดูช่องทางโดยเฉพาะในเรื่องดิจิทัลว่ามีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงได้อีกหรือไม่
นอกจากนี้ นายสมคิด สั่งการให้เปลี่ยนระบบราชการทุกอย่างเป็นดิจิทัลให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี แม้ว่าที่ผ่านมาส่วนราชการจะพัฒนาไปบ้างแล้ว เช่น ระบบ e-Registration แต่ก็ยังมีคนใช้น้อย จากความเคยชินในการใช้เอกสาร รวมทั้งใช้มาตรการจูงใจให้คนมาใช้ระบบดิจิทัลมากขึ้น เช่น ในต่างประเทศ หากมีการยื่นเอกสารจะมีค่าธรรมเนียมสูงกว่ายื่นในระบบดิจิทัล