นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “วันกุ้งจันท์ตะวันออก ‘๖๑ ครั้งที่ ๒๒" และติดตามการดำเนินงานโครงการแปลงใหญ่กุ้งทะเล จังหวัดจันทบุรี พร้อมเยี่ยมชมฟาร์มกุ้งของเกษตรกรโครงการประชารัฐ ว่า ปัจจุบันการผลิตสินค้าประมงมีการแข่งขันสูงทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ อีกทั้งยังมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรรายย่อยต้องประสบปัญหาในการจัดการผลผลิตและช่องทางการจัดจำหน่าย รวมทั้งขาดโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลแหล่งทุน ทรัพยากร และการตลาด เกษตรกรรายย่อยส่วนใหญ่ยังดำเนินการผลิตสินค้าแบบต่างคนต่างผลิต ทำให้ยากต่อการจัดการผลผลิตให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความต้องการของตลาด กระทรวงเกษตรฯ จึงผลักดันแนวคิดการส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างครบวงจรพร้อมเชื่อมโยงสู่การตลาด เพื่อสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ ภายใต้นโยบาย “ประชารัฐ" ของรัฐบาล ที่จะขับเคลื่อนภาคการเกษตร โดยความร่วมมือระหว่างเกษตรกร ราชการ และเอกชน ซึ่งมีการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างครบวงจร พร้อมเชื่อมโยงสู่ตลาด สร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น
ด้านนายอรุณชัย พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดจันทบุรี ถือเป็นฐานการผลิตกุ้งทะเลที่สำคัญลำดับต้นๆ ของประเทศไทย และมีความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกุ้งตลอดสายการผลิต ดังเห็นได้จากการที่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งได้รวมตัวกันจัดงานวันกุ้งจันท์ตะวันออก ณ โรงแรม เคพี แกรนด์ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 22 แล้ว แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเข้มแข็งของกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งที่จะมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพกุ้งให้ได้มาตรฐานสากลและขยายช่องทางไปสู่ตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้จะได้ถือโอกาสเยี่ยมชมฟาร์มกุ้งของเกษตรกรโครงการประชารัฐ และฟังบรรยายสรุปแนวทางการเลี้ยงกุ้งในรูปแบบต่างๆ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดาริอีกด้วย
ทั้งนี้ การดำเนินงานแปลงใหญ่กุ้งทะเล จังหวัดจันทบุรี มีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเลในสหกรณ์ประมงคุ้งกระเบน จำกัด จังหวัดจันทบุรี เข้าร่วมโครงการแปลงใหญ่ประชารัฐ ร่วมกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จากัด (มหาชน) จำนวน 24 ราย โดยจากข้อมูลการเปรียบเทียบผลผลิตจากการเลี้ยงกุ้งทะเลของเกษตรกร พบว่า ก่อนเข้าร่วมโครงการฯ (ปี 2558) มีผลผลิต ประมาณ 830 กก./ไร่ แต่หลังเข้าร่วมโครงการฯ (ปี 2560) มีผลผลิต ประมาณ 2,220 กก./ไร่ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 160 % จึงชี้ให้เห็นว่าโครงการแปลงใหญ่ประชารัฐสามารถขับเคลื่อนไปได้ตามวัตถุประสงค์
“จากการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการแปลงใหญ่ประชารัฐ (กุ้งทะเล) ของสหกรณ์ประมงคุ้งกระเบน จำกัด พบว่า เกษตรกรบางรายขาดเงินทุนในการปรับปรุงระบบการเลี้ยงตามแนวทาง “3 สะอาด" ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จากัด (มหาชน) ซึ่งต้องใช้เงินทุนในการปรับปรุงบ่อและการเลี้ยงค่อนข้างสูง โดยเกษตรกรเสนอให้ภาครัฐสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ นอกจากนี้ การผลักดันให้เกษตรกรเข้าสู่การรับรองมาตรฐาน GAP มกษ. 7401 -2557 แบบเดี่ยว ค่อนข้างยาก กรมประมงจึงส่งเสริมให้เกษตรกรขอรับการรับรองมาตรฐาน GAP มกษ. 7401 -2557 แบบกลุ่ม ซึ่งจะเหมาะสมกับกลุ่มเกษตรกรมากกว่า" นายอรุณชัย กล่าว