กอช. เผยปี 61 ตั้งเป้าหมายสมาชิกเพิ่ม 7 แสนราย-ลุยแก้กม.เปิดทางสมาชิกส่งเงินสะสมเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 26, 2018 13:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.จารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2561 ว่า ตั้งเป้าหมายหาสมาชิกเพิ่ม 700,000 ราย รวมมีสมาชิก 1.2 ล้านราย โดยกลุ่มสมาชิกเป้าหมายสำคัญในปีนี้คือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา เนื่องจากเป็นกลุ่มที่จะมีการออมระยะยาว ซึ่งปัจจุบันมีผู้สมัครเพียง 2% เท่านั้นจากจำนวนสมาชิก กอช. ทั้งหมด โดย กอช.จะประสานความร่วมมือกับ 10 หน่วยงานรัฐในการให้ความรู้วางแผนการออมวัยเกษียณ ซึ่งกองทุนจะมีการขับเคลื่อนให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม คือ โครงการสร้างครูต้นกล้าการออม และคัดเลือกสถานศึกษาที่มีความโดดเด่นด้านการส่งเสริมการออม ให้เป็นโรงเรียนต้นกล้าการออม พร้อมขยายผลการรณรงค์สร้างวินัยการออมไปยังพื้นที่อื่น ๆ ใน 10 จังหวัดทั่วประเทศด้วย

ทั้งนี้ยังมีผู้ที่ไม่สมัครเป็นสมาชิก กอช.เพื่อรับสิทธิ์รัฐสมทบเงินออมอีกกว่า 19.4 ล้านคน จากกลุ่มแรงงานนอกระบบที่มีสิทธิ์ทั้งหมดกว่า 20 ล้านคน

นอกจากนี้ จะมีการยกระดับการบริการสมาชิกและอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ โดยการเร่งรัดบริการด้านดิจิทัลออนไลน์ เพื่อให้บริการตรวจสอบคุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัคร และให้สมาชิกสามารถตรวจสอบยอดเงินในบัญชีผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และยังมีแนวคิดการจัดทำบัตรสิทธิประโยชน์เพื่อให้สมาชิก กอช. ไว้แสดงตน เพื่อเข้าร่วมโครงการพิเศษต่างๆกับ กอช. ด้วย

รวมถึงการแก้ไขพ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อเปิดทางให้สมาชิกกองทุนสามารถส่งเงินสะสมเข้า กอช. ได้เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 บาทต่อปี จากปัจจุบันสามารถส่งเงินสะสมได้สูงสุด 13,200 บาทต่อปี ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้สมาชิกมีการออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณมากขึ้น

“เรื่องการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สมาชิกสามารถส่งเงินสะสมได้เพิ่มขึ้นนั้น คณะกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นชอบเรื่องนี้แล้ว อยู่ระหว่างเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณา ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้อย่างแน่นอน ส่วนแนวคิดเรื่องการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้รัฐบาลสามารถส่งเงินสมทบได้เพิ่มขึ้น เป็น 1,500 บาทต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,200 บาทต่อปีนั้น ทางคณะกรรมการกองทุนฯ ยังไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้ เพราะเห็นว่า กอช. เพิ่งเปิดดำเนินการมาได้เพียง 2 ปี จึงอยากเห็นการให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์ และให้ความรู้เรื่องการออมผ่านกองทุนมากกว่า” น.ส.จารุลักษณ์ กล่าว

ขณะที่แนวทางการลงทุนในปีนี้ กอช. จะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง โดยมีเพดานการลงทุนสูงสุดอยู่ที่ 80% และลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้น กองทุนรวม ตราสารหนี้ภาคเอกชน เพดาน 20% ซึ่งในปีที่ผ่านมามีการลงทุนในกลุ่มนี้ อยู่ที่ 10% ขณะที่ปี 2561 ตั้งเป้าหมายลงทุนในกลุ่มที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็น 15% โดยได้มีการจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อมาพิจารณาแผนการลงทุน โดยเฉพาะในหุ้นรายตัวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงมุ่งเน้นการลงทุนในหลักทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการลงทุนปัจจุบันของกอช.

“ปีที่ผ่านมา กอช. มีการลงทุนในหุ้นมากขึ้น โดยเฉพาะใน SET 50 ทั้งกลุ่มแบงก์ พลังงาน สื่อสาร ก่อสร้าง ถือเป็นการช่วงชิงโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้เราได้ผลตอบแทนในส่วนนี้ค่อนข้างดี ขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้เอกชน มีปัจจัยเสริมเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง ทำให้เมื่อมีการตีมูลค่าทางบัญชีแล้วเรามีกำไรเพิ่มขึ้น และยังได้อานิสงส์จากดัชนีหุ้นที่ปรับขึ้นมาเสริมด้วย โดยในปีที่ผ่านมา กอช. มีกำไรจากการลงทุนอยู่ที่ 4%” น.ส.จารุลักษณ์ กล่าว

สำหรับในปี 60 กอช.มีสัดส่วนการลงทุน ประกอบด้วย เงินฝากธนาคาร 1,030.91 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.37% พันธบัตรรัฐบาล 1,632.80 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38.65% ตราสารหนี้รัฐบาลค้ำประกัน 222.02 ล้านบาท หรือ 5.25% ตราสารหนี้รัฐวิสาหกิจ 158.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.75% ตราสารหนี้ธนาคาร 40.68 ล้านบาท ตราสารหนี้ภาคเอกชน 841.46 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.89 % หน่วยลงทุนตราสารหนี้ 301.45 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.13% รวมทั้งสิ้น 4,229.90 ล้านบาท

สถานะของกองทุนในปัจจุบัน มีเงินกองทุนรวม 2,833 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินสะสม 2,138 ล้านบาท และเงินสมทบ 695 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ