นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการสัมมนา "EEC ไม่มีไม่ได้" ว่า รัฐบาลต้องการสร้างเจ้าของกิจการใหม่ๆ ที่นำเอาดิจิทัลมาสร้างมูลค่าสินค้า จุดหนึ่งที่รัฐบาลมองคือการสานต่อพื้นที่อุตสาหกรรมภาคตะวันออกที่มีอยู่เดิม โดยมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจูงใจการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ซึ่งมีคำขอเข้ามาเกือบ 2 แสนล้านบาท
"อนาคตของประเทศอยู่ในมือเราว่าจะให้เป็นอย่างไร เราจึงต้องพยายามผลักดันให้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เกิดขึ้นให้ได้ แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลเริ่มต้นไว้แล้ว เราต้องปลุกจิตสำนึกของคนในประเทศว่าอนาคตอยากเป็นอย่างไร...เหลืออีกปีหนึ่งผมก็จะทำงานถึงวันสุดท้าย แล้ววันหนึ่งคนจะรู้ว่าเกิดอะไร" นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด ระบุว่า รัฐบาลมีแนวคิดที่จะทำให้ประเทศเกิดความโดดเด่นขึ้นมา โดยมีการปฏิรูประบบเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เริ่มด้วยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพราะหมดยุคที่จะแข่งขันโดยนำเรื่องค่าแรงถูกมาแข่งขันกันอีกต่อไป เนื่องจากการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนมีการพัฒนาเพื่อรองรับโอกาสดังกล่าว
ดังนั้น รัฐบาลจึงมีแนวคิดที่จะทำให้ประเทศเกิดความโดดเด่นขึ้นมา โดยมีการปฏิรูประบบเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เริ่มด้วยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เพราะหมดยุคที่จะแข่งขันโดยนำเรื่องค่าแรงถูกมาแข่งขันกันอีกต่อไป เนื่องจากการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก
"วิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อ 3-4 ปีก่อนกลายเป็นโอกาสที่จะได้ปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยการสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่สามารถแข่งขันได้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันอย่างแรง ไม่ใช่แค่มียักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้า" นายสมคิด กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่า พ.ร.บ.ฉบับใหม่เพื่อรองรับอีอีซีจะผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในเร็วๆ นี้
"ใกล้เสร็จแล้ว เหลืออีกไม่กี่มาตรา น่าจะเสร็จภายในไม่กี่วันนี้" นายสมคิด กล่าว
นอกจากนี้ คาดว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการที่ จ.ตราด จะมีการพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับแผนพัฒนาพื้นที่อีอีซี ทั้งเรื่องการเกษตรและการท่องเที่ยว
ส่วนคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีนั้นเชื่อว่าแนวโน้มน่าจะดี แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือเน้นคุณภาพไม่ใช่ปริมาณ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมด้านดิจิทัล เพราะในอนาคตการใช้อินเตอร์เน็ตมีความสำคัญมาก ส่วนการเชื่อมโยงเศรษฐกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้นมีเส้นทางรถไฟทางคู่อยู่แล้ว เมื่อสถานการณ์เหมาะสม ภาคเอกชนก็จะดำเนินการเอง
ด้านความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองเรื่องกำหนดวันเลือกตั้งนั้น นายสมคิด ระบุว่า ยังไม่เคยได้ยินนักลงทุนแสดงความกังวลเรื่องการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพราะต่สิ่งที่นักลงทุนต้องการเห็นคือบ้านเมืองสงบ การเมืองมีเสถียรภาพ และภาวะเศรษฐกิจดี
"ถ้าไม่ทะเลาะกันก็น่าจะมีการเลือกตั้งเร็ว ผมลืมบอกไปว่าถ้าเศรษฐกิจดีอย่างนี้หุ้นน่าจะขึ้นนะ" นายสมคิด กล่าว