SME Bank เผยดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ SMEs Q4/60 ฟื้นตัว รับอานิสงส์มาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 29, 2018 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank หรือ ธพว.) เผยผลสำรวจดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ และดัชนีความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ SMEs ประจำไตรมาสที่ 4/2560 พบว่าผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของ SME Development Bank ต่างมั่นใจในธุรกิจมากกว่าผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไป สะท้อนจากผลสำรวจดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ SMEs ไตรมาสที่ 4/2560 ที่ปรับตัวดีขึ้นถึง 1.2 จุด มาอยู่ที่ระดับ 42.3 แม้ดัชนีฯ จะอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ก็ตาม แต่เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาสที่ 3/2560 ที่ระดับ 41.1 มาแล้ว ขณะที่แนวโน้มดัชนีสถานการณ์ธุรกิจในอนาคต (ไตรมาสที่ 1/2561) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่มาแตะระดับ 42.8 ถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่ดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจประจำไตรมาสที่ 4/2560 ผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของ SME Development Bank เชื่อมั่นในการทำธุรกิจสูงกว่าผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไป โดยเฉพาะการเข้าถึงแหล่งทุน ความสัมพันธ์ต่อลูกค้า และการบริหารต้นทุน-การตั้งราคา เป็นต้น อย่างไรก็ดี ภาพรวมยังพบว่าดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจอยู่ที่ระดับ 50.2 แม้จะปรับตัวลดลง 0.1 จุด แต่เป็นการปรับลดลงเพียงเล็กน้อยจากไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 3/2560) ซึ่งอยู่ที่ระดับ 50.3 สำหรับทิศทางในอนาคต (ไตรมาสที่ 1/2561) ดัชนีคาดจะขยับเพิ่มขึ้นถึง 0.2 จุด ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50.4

ส่วนดัชนีความยั่งยืนของธุรกิจประจำไตรมาสที่ 4/2560 พบว่า ดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 51.2 ปรับตัวลดลง 0.5 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา แม้จะปรับตัวลดลงแต่มีทิศทางดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 52.3 ในไตรมาสที่ 1/2561 ถือเป็นระดับที่น่าพอใจ และดัชนีความสามารถในการแข่งขันฯ ไตรมาสที่ 4/2560 อยู่ที่ระดับ 47.9 เพิ่มขึ้น 0.2 จุด เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาสที่ 3/2560)

ทั้งนี้ ธพว.ร่วมมือกับศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ทำการสำรวจดัชนีสถานการณ์ธุรกิจ SMEs และดัชนีความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ SMEs ประจำไตรมาสที่ 4/2560 จากผู้ประกอบการ SMEs รวม 1,202 ตัวอย่างทั่วประเทศ โดยสำรวจจากธุรกิจ SMEs ที่มีขนาดเล็ก (small) สัดส่วน 77.0% และธุรกิจขนาดกลาง (middle) 23.0% และเป็นธุรกิจการค้า 39.9% ธุรกิจการบริการ 34.9% และธุรกิจการผลิต 25.2% โดยการสำรวจจะจำแนกตามลักษณะการเป็นลูกค้าของ SME Development Bank คู่กับ SMEs ทั่วไป

นายมงคล กล่าวว่า ผลสำรวจดัชนีครั้งนี้ทำให้ ธพว.ทราบถึงข้อมูลเชิงลึก โดยจะนำผลสำรวจดังกล่าวไปปรับใช้เป็นแนวทางการช่วยเหลือ SMEs ให้ตรงจุดต่อไป ส่วนหนึ่งเพื่ออุดรูรั่วหรือความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ผลักดันผู้ประกอบการ SMEs ให้มีศักยภาพเข้มแข็ง พัฒนาจากธุรกิจขนาดย่อมสู่ธุรกิจขนาดกลาง อีกทั้ง จะมีการประเมินความเสี่ยงที่จะมีผลต่อธุรกิจเพื่อส่งต่อความช่วยเหลือได้ทันท่วงที และในส่วนของธนาคารเอง ขณะนี้ได้ยึดนโยบายการทำงานลงพื้นที่เชิงลึกฉับไวเข้าถึงพื้นที่ มุ่งยกระดับSMEs โดยเฉพาะผู้ประกอบการระดับชุมชนหรือเรียกว่า"จุลเอสเอ็มอี" ให้แข็งแกร่ง รวมถึง นำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อ และการพิจารณาสินเชื่อให้ตรงความต้องการของ SMEs เฉพาะเจาะจงกลุ่มธุรกิจ หรือเปรียบเทียบ คือ ตัดเสื้อเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจะช่วยให้มาตรการช่วยเหลือต่างๆ ตรงความต้องการของผู้ประกอบการตามประเภทธุรกิจ ไม่ใช่เสื้อ 1 ขนาด แล้วใช้กับ SMEs ทุกราย ซึ่งยากจะช่วยเหลือได้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า สิ่งที่ธุรกิจ SMEs ต้องการนอกเหนือจากการสนับสนุนองค์ความรู้จากหน่วยงานภาครัฐแล้ว เรื่องเงินทุน หรือสินเชื่อยังจำเป็นด้วยเช่นกัน สะท้อนจากดัชนีที่สำรวจในธุรกิจ SMEs ส่วนหนึ่งที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการสินเชื่อต่างๆ ซึ่ง SME Development Bank มีบทบาทสำคัญต่อการผลักดันให้ผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะรายเล็กเข้าถึงแหล่งทุน และต้องทำอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกกลุ่ม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ