น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เผยผลหารือกับหอการค้าต่างประเทศในไทย โดยมีนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลบีโอไอ เป็นประธาน ร่วมด้วยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการจัดหางาน และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจแก่นักธุรกิจต่างชาติต่อการส่งเสริมการลงทุนของไทย และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับกิจกรรมทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรมารองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายต่างๆ และที่สำคัญคือ ความพยายามในการปรับปรุงการอำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจในประเทศไทย
"บีโอไอมั่นใจว่า การหารือในวันนี้จะช่วยให้ผู้แทนหอการค้าต่างประเทศในไทยเกิดความเข้าใจนโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ๆ โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะช่วยให้หอการค้าต่างประเทศมีความมั่นใจนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล และนำไปสู่การขยายธุรกิจและการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การให้บริการสมาร์ทวีซ่า ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 1 ก.พ. นี้ จะเป็นการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจในไทย และจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนได้เป็นอย่างดี" น.ส.ดวงใจ กล่าว
ทั้งนี้ บีโอไอจะใช้โอกาสนี้รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้แทนหอการค้าต่างประเทศ เพื่อนำไปพิจารณาและดำเนินการต่อไป รวมทั้งรับฟังแนวทางการลดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของนักลงทุนต่างชาติด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาครัฐให้ความสำคัญและดำเนินการมาตลอด จนมีส่วนทำให้วันนี้ประเทศไทยได้รับการจัดให้อยู่อันดับที่ 26 จากเดิมอันดับที่ 46 จากการจัดอันดับความยากง่ายในการดำเนินธุรกิจโดยธนาคารโลก โดยขยับจากอันดับเดิมถึง 20 อันดับ
ด้านนายสแตนลี่ย์ คัง ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในไทย (Joint Foreign Chambers of Commerce in Thailand: JFCCT) กล่าวว่า หอการค้าร่วมต่างประเทศในไทยมีความชื่นชมต่อการปรับปรุงมาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการสมาร์ทวีซ่า ซึ่งจะช่วยทำให้การนำผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาปฏิบัติงานในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น
โดยที่ประชุมมีความเห็นตามข้อเสนอของนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและร่วมกันหาแนวทางที่จะปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆในการทำธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น และให้ไทยเป็นประเทศเป้าหมายของการลงทุนในภูมิภาค
สำหรับการประชุมหารือระหว่างบีโอไอและหอการค้าต่างประเทศในไทยอย่างไม่เป็นทางการนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น อันจะนำไปสู่การปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจให้แก่นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่บีโอไอให้ความสำคัญมาโดยตลอด