นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สายงานกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.นี้เป็นต้นไป ผู้ที่ซิมการ์ดใหม่ทั้งแบบรายเดือน และแบบเติมเงิน รวมถึงบุคคลที่ไม่ใช่สัญชาติไทย จะต้องลงทะเบียนผู้ใช้บริการด้วยระบบการตรวจสอบอัตลักษณ์ ทั้งการตรวจสอบใบหน้า (face recognition) หรือสแกนลายนิ้วมือ (finger print) ที่ศูนย์ให้บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วประเทศ ตัวแทนจำหน่าย และร้านค้าย่อย (ลูกตู้) ทั่วประเทศ
​รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า การลงทะเบียนซิมการ์ดด้วยวิธีอัตลักษณ์ เป็นการส่งเสริมนโยบายของภาครัฐในการดำเนินธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต้องมีการจัดเก็บข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อเป็นการยืนยันและพิสูจน์ตัวบุคคลของผู้ใช้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะไม่มีการจัดเก็บข้อมูลลายนิ้วมือและข้อมูลบัตรประชาชนไว้ที่จุดบริการ ผู้ที่ซื้อซิมการ์ดใหม่ที่ผ่านการตรวจสอบอัตลักษณ์แล้ว ระบบจะทำการลงทะเบียนโดยส่งข้อมูลตรงไปที่ฐานข้อมูลกลางเพื่อเปิดใช้งานซิมการ์ด และจัดเก็บข้อมูลของผู้ให้บริการทันที โดยผู้ให้บริการมีหน้าที่ดูแลและเก็บรักษาข้อมูลตามกฎหมาย
ในปัจจุบัน การลงทะเบียนด้วยการตรวจสอบอัตลักษณ์ มี 2 วิธี วิธีแรก เมื่อผู้ซื้อซิมการ์ดไปที่จุดจำหน่ายซิมจะมีเครื่องอ่านข้อมูลจากบัตรประชาชน (การ์ดรีดเดอร์) ผู้ซื้อซิมใหม่จะนำบัตรประชาชนไปเสียบในเครื่อง จากนั้นเครื่องจะอ่านข้อมูลเพื่อทำการตรวจสอบ การตรวจสอบวิธีนี้จะทำให้การลงทะเบียนมีความรวดเร็ว เพราะตรวจสอบตรงกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ แต่เนื่องจากพบว่ายังมีร้านลูกตู้จำนวนหนึ่งยังไม่มีความพร้อมในการซื้อเครื่องอ่านบัตร จึงใช้วิธีการถ่ายภาพบัตรประชาชนแล้วถ่ายใบหน้าผู้ซื้อซิมการ์ด เพื่อทำการเปรียบเทียบและตรวจสอบความถูกต้อง โดยในส่วนนี้เมื่อลงทะเบียนแล้ว ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจะต้องทำการตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง
"ความพร้อมของศูนย์บริการของทั้ง 3 ค่ายจำนวน 2,000 แห่งทั่วประเทศ มีความพร้อมในการลงทะเบียนวิธีใหม่ ส่วนลูกตู้อีกจำนวน 50,000 ตู้ พบว่าในจำนวนนี้ส่วนมากยังไม่มีการ์ดรีดเดอร์ แต่ก็สามารถให้บริการลงทะเบียนและขายซิมได้ โดยส่วนนี้ กสทช.จะหารือกับผู้ให้บริการทุกค่ายอีกครั้ง โดยน่าจะทะยอยปรับตัวกันไป กสทช. ขอเรียนผู้ใช้บริการว่าอาจจะใช้เวลาในการตรวจสอบเพื่อลงทะเบียนบ้าง แต่จะเกิดความปลอดภัย ไม่มีใครมาสวมบัตรหรือแอบอ้างได้" นายก่อกิจ ระบุ