นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 1/2561 ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า คณะกรรมการฯ เห็นชอบการประกาศเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มเติมอีก 19 แห่ง ซึ่งมีหลักเกณฑ์การจัดตั้งเขตส่งเสริมครบถ้วนแล้ว ทำให้มีพื้นที่ใหม่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายอีก 26,200 ไร่ และประมาณว่าจะรองรับการลงทุนได้กว่า 1.1 ล้านล้านบาท ภายใน 10 ปีข้างหน้า
สำหรับเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายจำนวน 19 แห่ง ประกอบด้วย จ.ระยอง จำนวน 6 แห่ง จ.ชลบุรี จำนวน 12 แห่ง และจ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 1 แห่ง ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ผ่านการศึกษาสิ่งแวดล้อมและเปิดดำเนินการอยู่แล้ว แต่ยังมีที่ดินเหลืออยู่ ดังนั้น การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายใน EEC จึงไม่จำเป็นต้องนำที่ดินอื่นๆ นอกเขตนิคมอุตสาหกรรมมาประกอบอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังรับทราบความก้าวหน้าของการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC ว่า ในปี 2560 มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน EEC รวมเป็นเงินลงทุน 296,8902 ล้านบาท โดยในปี 2561 มีเป้าหมายการลงทุน 300,000 ล้านบาท (เทียบกับ 199,327 ล้านบาทในปี 2559) โดย 84% เป็นการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีสูง
นายอุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนปฏิบัติการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มุ่งยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวในพื้นที่ สู่การท่องเที่ยวระดับโลกอย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 47 ล้านคน จาก 30 ล้านคนในปัจจุบัน และประชาชนจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 5 แสนล้านบาท จาก 3 แสนล้านบาทในปัจจุบัน ซึ่งมีโครงการภายใต้แผนดังกล่าวทั้งสิ้น 53 โครงการ กรอบวงเงินกว่า 3 หมื่นล้านบาท
รวมทั้งร่างแผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานรองรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก มุ่งเน้นการพัฒนาโลจิสติกส์แบบไร้รอยต่อ เชื่อมโยงทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศในพื้นที่ EEC และพื้นที่ใกล้เคียง มีทั้งโครงการระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาว รวม 168 โครงการ ในกรอบวงเงินงบประมาณ 1 ล้านล้านบาท
ที่ประชุมฯ รับทราบคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC เพิ่มเติม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.61 เป็นต้นไป ได้แก่ เขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษ เช่น เมืองการบินภาคตะวันออก ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในการยกเว้นภาษีนิติบุคคล เพิ่มอีก 2 ปี รวมแล้ว 8 ปี และลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 50% เพิ่มอีก 5 ปี โดยมีเงื่อนไขต้องฝึกอบรมพนักงาน มากกว่า 10% ของพนักงานทั้งหมดหรือมากกว่า 50 คน, เขตส่งเสริมเพื่อกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 50% เพิ่มอีก 5 ปีจากเกณฑ์ปกติ โดยมีเงื่อนไขต้องฝึกอบรมพนักงานมากกว่า 10% ของพนักงานทั้งหมด หรือมากกว่า 50 คน, เขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมหรือเขตอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC ได้รับสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 50% เพิ่มอีก 3 ปีจากเกณฑ์ปกติ โดยมีเงื่อนไขต้องฝึกอบรมพนักงานมากกว่า 5% ของพนักงานทั้งหมด หรือ มากกว่า 25 คน
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งคาดว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะพิจารณาแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้