นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.37 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.31 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทพยายามลงไป test ที่ระดับ 31.30 บาท/ดอลลาร์ แต่ ยังไม่ผ่าน จึงถือว่าเป็นแนวรับที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง เป็นไปตามทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค
อย่างไรก็ดี วันนี้ไม่มีการประกาศข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญหรือมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมากนัก จึงทำ ให้ตลอดทั้งวัน เงินบาทแกว่งอยู่ในกรอบแคบ
นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้าเงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่า แต่ให้แนวรับแรกไว้ที่ 31.30 บาท/ดอลลาร์ หากหลุด ลงไปจากนี้ คาดว่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.25 - 31.45 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.86 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.45 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2484 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2500 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,827.35 จุด ลดลง 6.25 จุด (-0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 57,321 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,787.21 ลบ.(SET+MAI)
- คณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ได้พิจารณาร่างกฎหรือระเบียบของรัฐวิสาหกิจที่
- รัฐบาลออสเตรเลียอยู่ในระหว่างศึกษาแนวทางในการเก็บภาษีสกุลเงินดิจิทัล อาทิ บิทคอยน์
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นตามมาตรการฉุกเฉินในวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการพุ่ง
ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการรุกซื้อพันธบัตรฉุกเฉินของ BOJ ในวันนี้ มีขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น อย่างต่อเนื่อง และหลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า BOJ กำลังพิจารณาถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนกำหนด ซึ่งการคาดการณ์ดัง กล่าวเป็นสาเหตุให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้น
- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงาน
ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อ มั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- นักลงทุนยังจับตาตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้
- สัปดาห์หน้าสหรัฐฯ มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ดังนี้ ยอดส่งออก นำเข้า และดุลการค้าเดือนธ.ค.,
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค. จากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) ขณะที่อังกฤษจะ
มีการประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ย