นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้จัดให้มีโครงการนำร่องเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อยในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่ 5 ต่อเนื่องจากจังหวัดนครราชสีมา สุพรรณบุรี สงขลา และพิษณุโลก ที่เป็นต้นแบบของการจัดกิจกรรมแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อยเพื่อขยายผลไปยังจังหวัดอื่นทั่วประเทศต่อไป
โดยกระทรวงฯ ได้เตรียมส่งรายชื่อผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้นอกระบบในจังหวัดจันทบุรีจากฐานข้อมูลโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ซึ่งมีจำนวน 6,427 คน และมีมูลหนี้นอกระบบรวมเป็นเงิน 302.69 ล้านบาท หรือมีมูลหนี้เฉลี่ย 47,097 บาทต่อคน ส่งให้กับธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อให้ติดต่อนำลูกหนี้นอกระบบแต่ละรายมาเข้าสู่กลไกการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ประกอบด้วย การให้คำปรึกษาไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบ พิจารณาช่วยเหลือด้านสินเชื่อและดูแลฟื้นฟูศักยภาพการหารายได้ ซึ่งเป็นกลไกการทำงานของจุดให้คำปรึกษาปัญหาหนี้นอกระบบประจำจังหวัดจันทบุรี และคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการหารายได้ของลูกหนี้นอกระบบประจำจังหวัดจันทบุรี
โดยนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้มอบนโยบายเรื่อง "แนวทางการแก้ไขปัญหา หนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อย" ว่า รัฐบาลมีความมุ่งหวังให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน โดยเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่งคือการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ได้เสียก่อน ดังนั้นจึงได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติและออกแบบกลไกการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่ครบวงจร ซึ่งได้รับความร่วมมือในการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานภาคีทุกกระทรวง ทั้งส่วนของการใช้กฎหมายว่าด้วยการห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราดำเนินการกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายและเอารัดเอาเปรียบลูกหนี้ การสร้างให้มีคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบในทุกจังหวัด การดูแลฟื้นฟูศักยภาพของลูกหนี้นอกระบบ การจัดให้มีแหล่งเงินทุนทดแทนการกู้ยืมนอกระบบจากธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. และสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างดำเนินมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ได้รับโอกาสในการมีงานทำ มีความรู้และทักษะอาชีพ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ และสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีบัตรสวัสดิการ ทั้งยังได้รับการเติมเงินในบัตรสวัสดิการอีกเดือนละ 100-200 บาท อีกด้วย อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบหรือได้รับสินเชื่อไปแล้ว ขอให้ช่วยกันรักษาวินัยในการใช้จ่ายและชำระหนี้ มีการทำบัญชีครัวเรือน สะสมเงินออม และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต เพื่อไม่ให้กลับไปเป็นหนี้นอกระบบ สามารถหลุดพ้นจากปัญหาความยากจน และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ในโอกาสนี้ รมว.คลัง และ รมช.คลัง ได้ร่วมกันมอบใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้แก่ผู้ประกอบการในจังหวัดใกล้เคียง จำนวน 5 ราย และมอบสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่มีปัญหาหนี้นอกระบบในจังหวัดจันทบุรี จำนวน 244 ราย เป็นเงิน 11.42 ล้านบาท
นอกจากนี้ รมว.คลัง และ รมช.คลัง ยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ) ณ เทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมการให้บริการประชาชนทั้งในส่วนการรับแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ การสัมภาษณ์ข้อเท็จจริง วิเคราะห์ และให้คำแนะนำแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายบุคคล ตลอดจนการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ แก่ประชาชน โดย ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน ซึ่งจังหวัดจันทบุรีมีผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 57,405 คน และเฉพาะพื้นที่อำเภอเมืองมีจำนวน 12,223 คน