นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้สิทธิพิเศษกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในโครงการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (YEN-D Program) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันว่า กรมการค้าต่างประเทศได้รายงานผลการดำเนินการเข้ามาแล้วว่า ขณะนี้พันธมิตร ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และตลาดต่อยอด AEC ได้ร่วมกันจัดทำบัตร YEN-D Club Card ซึ่งเป็นบัตรที่มอบสิทธิพิเศษให้แก่ผู้ที่ผ่านการอบรมในโครงการ YEN-D Program เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้มีการเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเปิดตัวโครงการ YEN-D 4.1 Season IV และได้มอบหมายบัตรให้กับสมาชิก YEN-D จำนวน 860 คน เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานพันธมิตรแล้ว
สำหรับสิทธิประโยชน์ที่สมาชิก YEN-D จะได้รับ เช่น ได้รับส่วนลดโรงแรมภายใต้กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์ 20 – 30%, ส่วนลดร้านอาหาร ภายใต้กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์, อัตราค่าเช่าพื้นที่ราคาพิเศษในโครงการตลาดต่อยอด, ได้รับวงเงินสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ รวมถึงเงินกู้ระยะสั้น วงเงินหมุนเวียน และวงเงินหนังสือค้ำประกันประเภทต่างๆ อัตราดอกเบี้ยพิเศษเช่นเดียวกัน
"ถือว่าผู้ประกอบการ YEN-D เหล่านี้เป็นนักรบเศรษฐกิจของไทยที่จะช่วยในการขยายการค้าและการลงทุนกับประเทศในกลุ่ม CLMV จึงต้องหาทางช่วยลดต้นทุน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้ผู้ประกอบการแข่งขันได้ และมีแรง มีกำลังใจในการบุกเจาะตลาด และยังได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศไปหาพันธมิตรใหม่ หรือร่วมมือกับพันธมิตรเดิมในการสนับสนุนผู้ประกอบการ YEN-D ให้มากขึ้นต่อไป" นายสนธิรัตน์กล่าว
ด้านนายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการเปิดรับสมัครผู้ประกอบการเข้ารับการอบรมในโครงการ YEN-D 4.1 ซึ่งเป็นรุ่นที่ 4 โดยในปีนี้ได้เปิดรับสมัคร 4 รุ่น ฝ่ายไทย 120 คน และเพื่อนบ้าน 120 คน รวม 240 คน ได้แก่ รุ่นที่ 1 ไทย-กัมพูชา อบรม 17-21 มี.ค. 2561 รับสมัคร 1-20 ก.พ. 2561 รุ่นที่ 2 ไทย-สปป.ลาว อบรม 21-25 เม.ย. 2561 รับสมัคร 1 ก.พ.-20 มี.ค. 2561 รุ่นที่ 3 ไทย-พม่า อบรม 19-23 พ.ค. 2561 รับสมัคร 1 ก.พ.-18 เม.ย. 2561 และรุ่นที่ 4 ไทย-เวียดนาม อบรม 16-20 มิ.ย. 2561 รับสมัคร 1 ก.พ.-15 พ.ค. 2561
"ขณะนี้มีผู้ประกอบการไทยสมัครเข้ามาเป็นจำนวนมาก มีอัตราส่วนอยู่ที่เกิน 100 คนต่อ 1 คน หมายความว่าสมัครมาเกิน 100 คน แต่ได้รับการคัดเลือกเข้าอบรมแค่ 1 คน โดยหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก จะคัดเลือกจากผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจริงๆ ไม่มีเด็กเส้น เด็กฝาก ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ประกอบการที่เป็นคนรุ่นใหม่ และมีไฟในการทำตลาด CLMV ทุกคนมีโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน" นายอดุลย์ระบุ
ส่วนผลการดำเนินการของโครงการ YEN-D ในช่วง 3 ปี (2558-2560) ที่ผ่านมา สามารถสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยกับเพื่อนบ้านได้แล้ว 860 คน มีผลการเจรจาจับคู่ธุรกิจและเกิดมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันแล้วกว่า 2,800 ล้านบาท