พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับเชิญจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อร่วมงานพิธีการส่งมอบระบบการลงทะเบียนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้กับ สปป.ลาว การดำเนินการที่สืบเนื่องจากปัญหาด้านความมั่นคงที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการค้ายาเสพติด ภัยก่อการร้าย การค้ามนุษย์ ตลอดจนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น
ส่วนใหญ่ภัยดังกล่าวจะมีรูปแบบการกระทำความผิดโดยใช้เทคโนโลยีในการดำเนินการ โดยจุดเริ่มต้นของการใช้งานด้านเทคโนโลยีที่สำคัญ คือการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ดังนั้น ประเทศไทยได้ตระหนักถึงภัยคุกคามดังกล่าว จึงได้กำหนดให้การใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งระบบเติมเงินและระบบรายเดือน ให้มีการลงทะเบียนผู้ใช้บริการตั้งแต่ปี 57 โดยโครงการลงทะเบียนดังกล่าว ได้บรรลุวัตถุประสงค์ครบถ้วนแล้ว และในปี 60 ถึงปี 61 ประเทศไทยได้พัฒนาระบบการลงทะเบียนเพิ่มเติมอีกเป็นระบบตรวจสอบอัตลักษณ์ของผู้ใช้บริการ ซึ่งจะสแกนลายนิ้วมือ หรือถ่ายรูปใบหน้าอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้บริการให้ถูกต้องตรงกันกับบัตรประชาชน
"การดำเนินการโครงการนี้ หากจะบรรลุวัตถุประสงค์อย่างแท้จริงนั้น จะต้องได้รับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการลงทะเบียนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คู่ขนานกันไปด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาการก่อการร้าย การค้ายาเสพติด หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลบหนีหรือไปกระทำความผิดในประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นการแบ่งแยกกลุ่มคนดีออกจากกลุ่มคนร้าย ดังนั้นรัฐบาลไทย และ สปป.ลาว จึงได้ร่วมตกลงกันในการลงทะเบียนผู้ใช้บริการของทั้งสองประเทศ โดย สปป.ลาว จะมีการใช้ระบบลงทะเบียนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ประเทศไทยได้ให้การสนับสนุน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบการลงทะเบียนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ สปป.ลาว เป็นหนึ่งในภารกิจของการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อแก้ไขปัญหาคลื่นความถี่โทรคมนาคมรบกวนพื้นที่ชายแดน และการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม ที่สำนักงาน กสทช. และ สปป.ลาว ได้ทำข้อตกลงกันไปเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 โดยสำนักงาน กสทช. ได้ร่วมดำเนินการกับ สปป.ลาว เป็นระยะเวลากว่า 1 ปี เพื่อปรับปรุงและพัฒนาระบบลงทะเบียนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้เหมาะสมกับ สปป.ลาว
การดำเนินการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการร่วมกันสร้างความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของทั้งสองประเทศ โดยจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการการค้ายาเสพติด ภัยก่อการร้าย การค้ามนุษย์ ตลอดจนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นอกจากนั้น ทั้งสองประเทศจะสามารถประสานความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้สะดวก ถูกต้อง และรวดเร็วเมื่อมีเหตุจำเป็น โดยสำนักงาน กสทช. มีความเชื่อมั่นว่า ทั้งสองประเทศจะมีการสร้างความร่วมมือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นผลงานร่วมกันในเวที ASEAN เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนของ สปป.ลาว และประเทศไทยต่อไป